พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำคดีการเสียชีวิตของประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 91 ศพ ระหว่างการชุมนุมทางการเมือง เมื่อเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2553 โดยระบุว่า เข้าให้ปากคำในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ และหัวหน้าชุดเจรจาต่อรองในขณะนั้น โดยได้ประจำการอยู่หลายจุด ซึ่งไม่หนักใจอะไร เนื่องจากไม่มีอะไรต้องปิดบัง เพราะก่อนหน้านี้ เคยให้ข้อมูลคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ไปแล้ว
ส่วนกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงของตนนั้น พล.ต.ต.วิชัย ระบุว่า ได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 คน และศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว แต่ ป.ป.ช. ไม่นำมาประกอบการพิจารณา ขณะที่จากนี้ไปจะดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้เรื่อง ป.ป.ช. ชี้มูลยังไม่ส่งมาถึงตน แต่ตนได้ลาออกจากราชการก่อน ต้องดูเหตุการณ์ต่อไป เพื่อเรียกร้องศักดิ์ศรี และความเป็นธรรมกลับคืนมา
ส่วนกระแสข่าวการลงชิงสมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น ยอมรับว่าได้รับการทาบทามจากหลายฝ่ายจริง แต่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ และขณะนี้ได้เป็นที่ปรึกษากฎหมายบริษัทเพื่อนๆ อยู่หลายแห่ง
ส่วนกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงของตนนั้น พล.ต.ต.วิชัย ระบุว่า ได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 คน และศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว แต่ ป.ป.ช. ไม่นำมาประกอบการพิจารณา ขณะที่จากนี้ไปจะดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้เรื่อง ป.ป.ช. ชี้มูลยังไม่ส่งมาถึงตน แต่ตนได้ลาออกจากราชการก่อน ต้องดูเหตุการณ์ต่อไป เพื่อเรียกร้องศักดิ์ศรี และความเป็นธรรมกลับคืนมา
ส่วนกระแสข่าวการลงชิงสมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น ยอมรับว่าได้รับการทาบทามจากหลายฝ่ายจริง แต่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ และขณะนี้ได้เป็นที่ปรึกษากฎหมายบริษัทเพื่อนๆ อยู่หลายแห่ง
