ศาลอาญา รัชดาฯ อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีที่ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแกนนำ นปช. พร้อมแกนนำ และแนวร่วมรวม 8 คน ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด และ ายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด เป็นจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จากกรณีระหว่างวันที่ 1-14 สิงหาคม ปี 2552 จำเลยที่ 1 ซึ่งขณะนั้นเป็นอัยการสูงสุด และจำเลยที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่แทนอัยการสูงสุด เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดความเห็นแย้งกับพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 ที่สั่งไม่ฟ้องจำเลย กับพวก 15 คน กรณีนำกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงบุกหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ปี 2550 แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นแย้ง ส่งเรื่องกลับไปให้จำเลยทั้ง 2 เป็นผู้พิจารณาชี้ขาด และจำเลยได้สั่งฟ้องโจทก์ทั้ง 8 คน ซึ่งคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า การที่อัยการจะใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยคดีไปในทางใดนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละบุคคล แต่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย แต่การบรรยายฟ้องของโจทก์นั้น เข้าองค์ประกอบว่า จำเลยกระทำการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนมูลฟ้องจำเลยทั้ง 8 ใหม่ และมีคำสั่งตามรูปคดีต่อไป
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า การที่อัยการจะใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยคดีไปในทางใดนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละบุคคล แต่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย แต่การบรรยายฟ้องของโจทก์นั้น เข้าองค์ประกอบว่า จำเลยกระทำการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนมูลฟ้องจำเลยทั้ง 8 ใหม่ และมีคำสั่งตามรูปคดีต่อไป
