ตำรวจภูธรภาค 1 สามารถจับคนร้ายที่ปล้นเงินจากรถขนเงินของบริษัทกรุงเทพเซอร์เว็กซ์ บริเวณลานจอดรถห้างโลตัส สาขาบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ได้เงินไปเกือบ 16 ล้านบาทคือ นายสายฟ้า เกษมุติ อายุ 40 ปี และนายวีระฉัตร เจริญชัยวัฒน์ อายุ 22 ปี โดยนายสายฟ้าถูกจับกุมที่ลานจอดรถสวนจตุจักร ส่วนนายวีระฉัตร ถูกจับกุมที่ จ.หนองคาย พร้อมเงินของกลางประมาณ 7 ล้านบาท โดยสองคนนี้จะถูกนำตัวไปแถลงข่าว ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ช่วงบ่ายวันนี้
โดยคดีนี้ตำรวจ จ.พระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวนภูธรภาค 1 แกะรอย โดยนำใบรับรถที่ถูกคนร้ายขโมยไปก่อเหตุ ส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อดูว่าเลขทะเบียนเดิมของใบรับรถคือหมายเลขอะไร กระทั่งได้เลขจริงออกมาคือ หมายเลข กต 66 จึงเชื่อว่าคนร้ายต้องเคยมาล้างรถที่นี่ และตอนมารับรถอาจจะอ้างว่า ใบนี้หายไป แต่แสดงหลักฐานจนทางร้านเชื่อ ยอมปล่อยรถไปให้ จากนั้นนำใบรับรถไปเปลี่ยนหมายเลขทะเบียนให้ตรงกับรถที่ต้องการขโมย ผลจากการแกะรอยนี้ เลยสาวไปยังเจ้าของรถคือ นายสายฟ้า และเป็นคนที่ไปขโมยรถ ตำรวจเลยใช้เป็นเบาะแสในการติดตามตัว
สำหรับคนร้ายที่ถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ เป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยก่อเหตุ ชิงเงินจากรถขนเงินของบริษัทแซทโก้ จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ไม่สำเร็จ
โดยคดีนี้ตำรวจ จ.พระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวนภูธรภาค 1 แกะรอย โดยนำใบรับรถที่ถูกคนร้ายขโมยไปก่อเหตุ ส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อดูว่าเลขทะเบียนเดิมของใบรับรถคือหมายเลขอะไร กระทั่งได้เลขจริงออกมาคือ หมายเลข กต 66 จึงเชื่อว่าคนร้ายต้องเคยมาล้างรถที่นี่ และตอนมารับรถอาจจะอ้างว่า ใบนี้หายไป แต่แสดงหลักฐานจนทางร้านเชื่อ ยอมปล่อยรถไปให้ จากนั้นนำใบรับรถไปเปลี่ยนหมายเลขทะเบียนให้ตรงกับรถที่ต้องการขโมย ผลจากการแกะรอยนี้ เลยสาวไปยังเจ้าของรถคือ นายสายฟ้า และเป็นคนที่ไปขโมยรถ ตำรวจเลยใช้เป็นเบาะแสในการติดตามตัว
สำหรับคนร้ายที่ถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ เป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยก่อเหตุ ชิงเงินจากรถขนเงินของบริษัทแซทโก้ จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ไม่สำเร็จ