พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา ได้เบาะแสคนร้ายชิงทรัพย์รถขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เผยพบภาพสเก็ตซ์ 1 ใน 3 คนร้ายตรงกับคนร้ายคดีปล้นในพื้นที่ชลบุรี
พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายชิงทรัพย์รถขนเงิน ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัส อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เงินสดไป 15,590,000 บาท เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า จากการสั่งการของ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการปรับแผนการสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้ในเรื่องของการติดตามรถของคนร้าย ซึ่งขณะนี้ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้แบ่งการทำงานเป็น 6 ชุด ในการติดตามรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า 2 ที่ปรากฎในภาพวงจรปิดก่อน และหลังวันเกิดเหตุวนเวียนในที่เกิดเหตุ และถนนเส้นทางสายเอเซีย
โดยได้ทำการสืบสวนว่าในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมไปถึงเขต จ.นนทบุรี มีรถยนต์ลักษณะนี้กี่คันที่เจ้าของมีประวัติต้องสงสัย ซึ่งหากเจ้าของรถที่ปรากฎในภาพคิดว่าตนเองบริสุทธิ์ แล้วรถไปปรากฏในภาพวงจรปิดที่ตำรวจกำลังตามดูในวันเวลาดังกล่าว ขอให้ไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.พระอินทร์ราชา หรือที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์
ในส่วนของการคลี่คลายคดี ขณะนี้ตำรวจอีกชุดได้ย้อนดูภาพวงจรปิดหลายจุดตั้งแต่ห้างโลตัสที่เกิดเหตุ ถนนสายเอเชีย และที่ห้างบิ๊กซีอยุธยา โดยย้อนไป 7 วันเพื่อดูภาพรถต้องสงสัย และผู้ต้องสงสัยตามภาพสเก็ตซ์ที่พยานให้การ ซึ่งล่าสุดพบบุคคลต้องสงสัยตามภาพสเก็ตซ์ เดินอยู่บริเวณหน้าห้างโลตัส สาขาบางปะอิน ก่อนวันเกิดเหตุ และยังพบภาพผู้ต้องสงสัย 1 ใน 2 ตามภาพสเก็ตซ์ ไปเดินวนเวียนทางเข้าห้างบิ๊กซีอยุธยา ใกล้กับธนาคารไทยพานิชย์ สาขาบิ๊กซีด้วย ซึ่งเป็นไปได้ว่าคนร้ายมีเป้าหมายธนาคารตามห้าง แต่ยังไม่สบโอกาส
สำหรับภาพสเก็ตซ์ของผู้ต้องสงสัย 1 ใน 2 ที่พบขณะนี้ตรงกับภาพสเก็ตซ์คนร้ายในที่เกิดเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 2 เขต จ.ชลบุรี ซึ่งได้ประสานกับทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ในการสืบสวนขยายผลแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินกว่า 15 ล้านบาทเศษนั้นยังไม่ถูกกระจายออกไปใช้จ่าย และมีโอกาสที่คนร้ายน่าจะยังอยู่ในพื้นที่หรือใกล้เคียง
พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายชิงทรัพย์รถขนเงิน ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัส อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เงินสดไป 15,590,000 บาท เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า จากการสั่งการของ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการปรับแผนการสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้ในเรื่องของการติดตามรถของคนร้าย ซึ่งขณะนี้ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้แบ่งการทำงานเป็น 6 ชุด ในการติดตามรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า 2 ที่ปรากฎในภาพวงจรปิดก่อน และหลังวันเกิดเหตุวนเวียนในที่เกิดเหตุ และถนนเส้นทางสายเอเซีย
โดยได้ทำการสืบสวนว่าในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมไปถึงเขต จ.นนทบุรี มีรถยนต์ลักษณะนี้กี่คันที่เจ้าของมีประวัติต้องสงสัย ซึ่งหากเจ้าของรถที่ปรากฎในภาพคิดว่าตนเองบริสุทธิ์ แล้วรถไปปรากฏในภาพวงจรปิดที่ตำรวจกำลังตามดูในวันเวลาดังกล่าว ขอให้ไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.พระอินทร์ราชา หรือที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์
ในส่วนของการคลี่คลายคดี ขณะนี้ตำรวจอีกชุดได้ย้อนดูภาพวงจรปิดหลายจุดตั้งแต่ห้างโลตัสที่เกิดเหตุ ถนนสายเอเชีย และที่ห้างบิ๊กซีอยุธยา โดยย้อนไป 7 วันเพื่อดูภาพรถต้องสงสัย และผู้ต้องสงสัยตามภาพสเก็ตซ์ที่พยานให้การ ซึ่งล่าสุดพบบุคคลต้องสงสัยตามภาพสเก็ตซ์ เดินอยู่บริเวณหน้าห้างโลตัส สาขาบางปะอิน ก่อนวันเกิดเหตุ และยังพบภาพผู้ต้องสงสัย 1 ใน 2 ตามภาพสเก็ตซ์ ไปเดินวนเวียนทางเข้าห้างบิ๊กซีอยุธยา ใกล้กับธนาคารไทยพานิชย์ สาขาบิ๊กซีด้วย ซึ่งเป็นไปได้ว่าคนร้ายมีเป้าหมายธนาคารตามห้าง แต่ยังไม่สบโอกาส
สำหรับภาพสเก็ตซ์ของผู้ต้องสงสัย 1 ใน 2 ที่พบขณะนี้ตรงกับภาพสเก็ตซ์คนร้ายในที่เกิดเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 2 เขต จ.ชลบุรี ซึ่งได้ประสานกับทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ในการสืบสวนขยายผลแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินกว่า 15 ล้านบาทเศษนั้นยังไม่ถูกกระจายออกไปใช้จ่าย และมีโอกาสที่คนร้ายน่าจะยังอยู่ในพื้นที่หรือใกล้เคียง
