นายสุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายยิงผู้คุมเรือนจำนครศรีธรรมราช ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุคนร้ายประกบยิงนายออด แซ่ผั่ว อายุ 49 ปี ผู้คุมเรือนจำ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้มีการประสานข้อมูลและประชุมร่วมกับตำรวจเพื่อติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ชัดเจนว่า ผู้ก่อเหตุต้องการข่มขวัญเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา แต่รายละเอียดอื่นไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ยังดี ไม่มีใครขอย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งได้กำชับไม่ให้ประมาท และหลีกเลี่ยงการเดินทางเพียงลำพัง ขณะนี้เรือนจำได้กำลังตำรวจตระเวนชายแดนเข้ามาดูแลความปลอดภัยรอบเนื้อที่กว่า 300 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีแผนส่งเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนเพิ่มเติมด้วย
ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังกล่าวถึงการตรวจจับยาเสพติดยัดไส้ในกล่องนมยูเอชทีวานนี้ ว่า จากการตรวจสอบเพียง 2 กล่อง ยึดยาบ้าได้ 4,040 เม็ด ยาไอซ์ 250 กรัม เครื่องส่งสัญญาณบลูทูธ 3 ตัว แต่ไม่พบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งหากเข้าไปยังเรือนจำจะมีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอมรับว่า แม้จะมีการตรวจจับได้บ่อยครั้ง แต่ได้ค่าตอบแทนที่สูงจึงเป็นสิ่งจูงใจให้คนร้ายยังคงพยายามลักลอบค้ายาเสพติดในเรือนจำ ซึ่งจะต้องคุมเข้มตรวจจับต่อไป
ทั้งนี้ ยืนยันว่าขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ยังดี ไม่มีใครขอย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งได้กำชับไม่ให้ประมาท และหลีกเลี่ยงการเดินทางเพียงลำพัง ขณะนี้เรือนจำได้กำลังตำรวจตระเวนชายแดนเข้ามาดูแลความปลอดภัยรอบเนื้อที่กว่า 300 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีแผนส่งเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนเพิ่มเติมด้วย
ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังกล่าวถึงการตรวจจับยาเสพติดยัดไส้ในกล่องนมยูเอชทีวานนี้ ว่า จากการตรวจสอบเพียง 2 กล่อง ยึดยาบ้าได้ 4,040 เม็ด ยาไอซ์ 250 กรัม เครื่องส่งสัญญาณบลูทูธ 3 ตัว แต่ไม่พบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งหากเข้าไปยังเรือนจำจะมีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอมรับว่า แม้จะมีการตรวจจับได้บ่อยครั้ง แต่ได้ค่าตอบแทนที่สูงจึงเป็นสิ่งจูงใจให้คนร้ายยังคงพยายามลักลอบค้ายาเสพติดในเรือนจำ ซึ่งจะต้องคุมเข้มตรวจจับต่อไป