ศาลอาญารัชดานัดอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการ กองคดียาเสพติด 1 เป็น โจทก์ ยื่นคำร้องขอให้อายัดทรัพย์สินของ นางวรนุช หรือ ติ๋ม ธีราทรง อายุ 51 ปี น.ส.วราภรณ์ ธีราทรง อายุ 33 ปี และ นายเอนก สุดิรัตน์ อายุ 51 ปี หรือ เสี่ยโอฬาร เจ้าของสวนส้มใน จ.เชียงราย เป็นจำเลยที่ 1-3 คดีค้ายาบ้า อัยการร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์รวม 79 รายการ มูลค่านับ 100 ล้านบาท ให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามของผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 จากกรณี เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 2547 นางอรนุช กับพวกได้ร่วมกัน ครอบครองยาบ้า กว่า 1,350,000 เม็ด เพื่อจำหน่าย
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกเสี่ยโอฬาร 50 ปี แต่ให้ขัง นางอรนุช กับ น.ส.วราภรณ์ ไว้ระหว่างรอฎีกา ส่วนคดียึดทรัพย์นั้น ศาลชั้นต้น มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2553 ยึดทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท ของเสี่ยโอฬาร ให้ตกเป็นของแผ่นดิน
ซึ่งเมื่อถึงเวลานัด นายเอนก สุดิรัตน์ เสี่ยโอฬาร ไม่เดินทางมาศาล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่ได้เบิกตัวมาจากเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี ส่วน จำเลย อีก 2 คนมาศาล ศาลพิเคราะห์แล้วพิพากษาแก้โทษยึดทรัพย์ ไม่ยึดทรัพย์รายการที่ 3 และรายการที่ 4 ซึ่งเป็น ธนบัตรฉบับละ 100 บาท และ 20 บาท รวม 8,800 บาท ที่บางส่วนมีสภาพถูกไฟไหม้ ส่วนทรัพย์อื่นให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกเสี่ยโอฬาร 50 ปี แต่ให้ขัง นางอรนุช กับ น.ส.วราภรณ์ ไว้ระหว่างรอฎีกา ส่วนคดียึดทรัพย์นั้น ศาลชั้นต้น มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2553 ยึดทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท ของเสี่ยโอฬาร ให้ตกเป็นของแผ่นดิน
ซึ่งเมื่อถึงเวลานัด นายเอนก สุดิรัตน์ เสี่ยโอฬาร ไม่เดินทางมาศาล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่ได้เบิกตัวมาจากเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี ส่วน จำเลย อีก 2 คนมาศาล ศาลพิเคราะห์แล้วพิพากษาแก้โทษยึดทรัพย์ ไม่ยึดทรัพย์รายการที่ 3 และรายการที่ 4 ซึ่งเป็น ธนบัตรฉบับละ 100 บาท และ 20 บาท รวม 8,800 บาท ที่บางส่วนมีสภาพถูกไฟไหม้ ส่วนทรัพย์อื่นให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
