นายวินัย ดำรงมงคลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติกว่า 64 ล้านบาท ที่เตรียมจะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณายื่นฟ้อง ว่า ขณะนี้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด รอสำนวนพยานหลักฐานจาก ป.ป.ช. โดยคาดว่า ป.ป.ช.จะใช้เวลารวบรวมเอกสารหลักฐานอีกสักระยะ จึงจะส่งสำนวนมา
นอกจากนี้ นายวินัย ยังกล่าวอีกว่า หากอัยการสูงสุดได้รับสำนวน ป.ป.ช. ตนจะแต่งตั้งคณะทำงานอัยการมาพิจารณา เพื่อตรวจสอบสำนวนดังกล่าว ก่อนจะสรุปความเห็นเสนอให้นายจุลสิงห์ เป็นผู้พิจารณากลั่นกรองและชี้ขาดในการยื่นฟ้อง โดยขั้นตอนทั้งหมด กฎหมายกำหนดให้อัยการมีเวลาตรวจสอบภายในเวลา 90 วัน ซึ่งคดีนี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลในความผิดข้อหาร่ำรวยผิดปกติเท่านั้น การพิจารณาจึงจะต้องเป็นเรื่องคดีทางแพ่ง เพื่อจะยื่นฟ้องศาลแพ่ง ให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนคดีอาญา ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการระบุถึงการกระทำความผิดไว้
นอกจากนี้ นายวินัย ยังกล่าวอีกว่า หากอัยการสูงสุดได้รับสำนวน ป.ป.ช. ตนจะแต่งตั้งคณะทำงานอัยการมาพิจารณา เพื่อตรวจสอบสำนวนดังกล่าว ก่อนจะสรุปความเห็นเสนอให้นายจุลสิงห์ เป็นผู้พิจารณากลั่นกรองและชี้ขาดในการยื่นฟ้อง โดยขั้นตอนทั้งหมด กฎหมายกำหนดให้อัยการมีเวลาตรวจสอบภายในเวลา 90 วัน ซึ่งคดีนี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลในความผิดข้อหาร่ำรวยผิดปกติเท่านั้น การพิจารณาจึงจะต้องเป็นเรื่องคดีทางแพ่ง เพื่อจะยื่นฟ้องศาลแพ่ง ให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนคดีอาญา ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการระบุถึงการกระทำความผิดไว้