พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการหนีทหาร และการใช้เอกสารเท็จรับสมัครราชการทหารของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำเอกสารต้นขั้วของกองทัพบก เช่น ทะเบียนกองประจำการ สด.3 บัญชีคนขาดปี 2539 บัญชีเรียก สด.16 และใบ สด.9 มาแถลงข่าวชี้แจงว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นเกณฑ์ทหารในวันที่ 7 เมษายน 2530 จริง เพราะฉะนั้นจึงถือว่านายอภิสิทธิ์หนีทหาร และใช้เอกสารปลอมไปสมัครเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อย จปร.ซึ่งมีเอกสารเท็จทั้งสองเรื่อง ยืนยันได้อย่างชัดเจน
พล.อ.อ.สุกำพล ยืนยันว่า การตรวจสอบกรณีดังกล่าว เป็นการทำตามหน้าที่ ไม่ได้จงใจกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะมีผู้ยื่นข้อร้องเรียนมา อย่างผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยถามมายังกระทรวงกลาโหม หากตนไม่ดำเนินการ จะถูกกล่าวหาได้ว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการเอาผิดทั้งถอนยศและเรียกคืนเงินประจำตำแหน่งนั้น กรมพระธรรมนูญเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล จะพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบต่อไป โดยที่สำคัญต้องไปตรวจสอบก่อนว่า คดีของนายอภิสิทธิ์หมดอายุความไปแล้วหรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์ดเกิดขึ้นเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวของ พล.อ.อ.สุกำพลในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมายืนยันกรณีของนายอภิสิทธิ์ว่า กองทัพบกได้สอบสวนจบไปแล้วตั้งแต่ปี 2542
พล.อ.อ.สุกำพล ยืนยันว่า การตรวจสอบกรณีดังกล่าว เป็นการทำตามหน้าที่ ไม่ได้จงใจกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะมีผู้ยื่นข้อร้องเรียนมา อย่างผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยถามมายังกระทรวงกลาโหม หากตนไม่ดำเนินการ จะถูกกล่าวหาได้ว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการเอาผิดทั้งถอนยศและเรียกคืนเงินประจำตำแหน่งนั้น กรมพระธรรมนูญเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล จะพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบต่อไป โดยที่สำคัญต้องไปตรวจสอบก่อนว่า คดีของนายอภิสิทธิ์หมดอายุความไปแล้วหรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์ดเกิดขึ้นเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวของ พล.อ.อ.สุกำพลในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมายืนยันกรณีของนายอภิสิทธิ์ว่า กองทัพบกได้สอบสวนจบไปแล้วตั้งแต่ปี 2542