นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงโครงการขยายระบบท่อส่งน้ำมันไปพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เม็ดเงินลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท โดยแนวท่อดังกล่าวไปภาคเหนือจะขยายจากคลังน้ำมันสระบุรี ไปพิษณุโลกและลำปาง ระยะทาง 338 กิโลเมตร ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มจากคลังน้ำมัน จ.สระบุรี ไปนครราชสีมาและขอนแก่น ระยะทาง 345 กิโลเมตร โดย 4 จังหวัดจะต้องสร้างคลังน้ำมันใหม่
นายวีระพล กล่าวต่อไปว่า ท่อส่งน้ำมันจะช่วยประหยัดพลังงานจากการขนส่งทางรถได้ 42,000 ล้านบาท ในอีก 25 ปี จากปัจจุบันใช้รถขนส่งน้ำมันนับหมื่นคัน และประหยัดค่าซ่อมแซมอะไหล่รถยนต์ พร้อมลดก๊าซเรือนกระจกได้ 530 ล้านตัน ขณะเดียวกันยังช่วยสนับสนุนเขตเศรษฐกิจอาเซียนตามโครงการทางอีสต์-เวสต์คอริดอร์ส ที่จะเชื่อมไปเวียดนามไปพม่า และยังทำให้ต้นทุนน้ำมันลดลง 20-30 สตางค์ต่อลิตร พร้อมกับช่วยป้องกันน้ำมันขาดแคลนในช่วงภัยพิบัติ โดยรูปแบบการลงทุนอาจจะเป็นทั้งรัฐรวมทุนเอกชน หรือเอกชน แต่อาจให้บริษัทท่อส่งปิโตรเลียม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการท่อน้ำมันภาคกลางเป็นผู้บริหาร ทั้งนี้ยังใช้เวลาหลายปี เพราะมีขั้นตอนเสนอโครงการและทำความเข้าใจกับประชาชนในทางผ่านของท่อ
นายวีระพล กล่าวต่อไปว่า ท่อส่งน้ำมันจะช่วยประหยัดพลังงานจากการขนส่งทางรถได้ 42,000 ล้านบาท ในอีก 25 ปี จากปัจจุบันใช้รถขนส่งน้ำมันนับหมื่นคัน และประหยัดค่าซ่อมแซมอะไหล่รถยนต์ พร้อมลดก๊าซเรือนกระจกได้ 530 ล้านตัน ขณะเดียวกันยังช่วยสนับสนุนเขตเศรษฐกิจอาเซียนตามโครงการทางอีสต์-เวสต์คอริดอร์ส ที่จะเชื่อมไปเวียดนามไปพม่า และยังทำให้ต้นทุนน้ำมันลดลง 20-30 สตางค์ต่อลิตร พร้อมกับช่วยป้องกันน้ำมันขาดแคลนในช่วงภัยพิบัติ โดยรูปแบบการลงทุนอาจจะเป็นทั้งรัฐรวมทุนเอกชน หรือเอกชน แต่อาจให้บริษัทท่อส่งปิโตรเลียม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการท่อน้ำมันภาคกลางเป็นผู้บริหาร ทั้งนี้ยังใช้เวลาหลายปี เพราะมีขั้นตอนเสนอโครงการและทำความเข้าใจกับประชาชนในทางผ่านของท่อ
