นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วม 7 หน่วยงาน โดยมีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานการเหมืองแร่ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมโรงงานอุตสาหกรรม สภาการเหมืองแร่ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือกำหนดแนวทางร่วมกันบูรณาการและสนธิกำลังด้านการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยแร่
การหารือครั้งนี้ได้มีการแบ่งหน้าที่กัน โดยดีเอสไอจะทำในส่วนคดีพิเศษตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายที่เพิ่มขึ้น หากพบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะขบวนการ และเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ส่วนกรณีที่เป็นกรณีปกติไม่มีความสลับซับซ้อนจะเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจสิ่งแวดล้อม ที่ต้องดำเนินคดี
นายธาริต กล่าวด้วยว่า ในการกำหนดแนวทางร่วมมือครั้งนี้ ทุกหน่วยงานจะเน้นให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิและให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการเหมืองแร่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในที่ประชุม 7 หน่วยงาน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ระวังการแอบอ้างชื่อหน่วยงานเข้าไปรับสินบน เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีตัวอย่างการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าไปรับเรียกประโยชน์จากเหมืองแร่เถื่อนมาแล้ว
การหารือครั้งนี้ได้มีการแบ่งหน้าที่กัน โดยดีเอสไอจะทำในส่วนคดีพิเศษตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายที่เพิ่มขึ้น หากพบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะขบวนการ และเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ส่วนกรณีที่เป็นกรณีปกติไม่มีความสลับซับซ้อนจะเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจสิ่งแวดล้อม ที่ต้องดำเนินคดี
นายธาริต กล่าวด้วยว่า ในการกำหนดแนวทางร่วมมือครั้งนี้ ทุกหน่วยงานจะเน้นให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิและให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการเหมืองแร่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในที่ประชุม 7 หน่วยงาน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ระวังการแอบอ้างชื่อหน่วยงานเข้าไปรับสินบน เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีตัวอย่างการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าไปรับเรียกประโยชน์จากเหมืองแร่เถื่อนมาแล้ว