นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงสถานการณ์การฆ่าตัวตายทั่วโลกว่า แต่ละปีมีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ มากกว่า 1 ล้านคน หรือเฉลี่ย 1 คนทุก 40 วินาที ส่งผลกระทบต่อจิตใจของครอบครัวและผู้คนรอบข้างของผุ้เสียชีวิต อีกปีละ 10-20 ล้านคน ขณะที่อัตราการฆ่าตัวตายของคนไทย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อยู่ระหว่าง 5.97-6.03 คนต่อประชากรแสนคน โดยปี 2554 มีผู้ฆ่าตัวตาย 3,800 คน เฉลี่ยวันละ 12 คน หรือชั่วโมงละ 2 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 30-39 ปี ขณะที่วัยรุ่น ในกลุ่มอายุ 10-19 ปี มีแนวโน้มการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นจาก 188 คน ในปี 2551 เป็น 203 คน ในปี 2552 และ 215 คน ในปี 2553
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ยืนยันว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อัตราการฆ่าตัวตายไม่เพิ่มสูงขึ้น แต่ครอบครัวควรเอาใจใส่และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ผู้มีปัญหาสุรา ยาเสพติด ผู้ป่วยทางจิต และผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ สามารถขอรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตได้ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ และบริการสายด่วน 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ยังเรียกร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพการฆ่าตัวตาย และเนื้อหาที่บ่งบอกถึงขั้นตอน วิธีการฆ่าตัวตาย เพื่อป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีสภาพจิตใจเปราะบาง
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ยืนยันว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อัตราการฆ่าตัวตายไม่เพิ่มสูงขึ้น แต่ครอบครัวควรเอาใจใส่และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ผู้มีปัญหาสุรา ยาเสพติด ผู้ป่วยทางจิต และผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ สามารถขอรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตได้ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ และบริการสายด่วน 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ยังเรียกร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพการฆ่าตัวตาย และเนื้อหาที่บ่งบอกถึงขั้นตอน วิธีการฆ่าตัวตาย เพื่อป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีสภาพจิตใจเปราะบาง