นายอุดมเดช รัตนเสถียร คณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวชี้แจงต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถึงกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญโดยรัฐบาล เป็นไปด้วยความชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีเจตนาที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญ 2550 และไม่มีเจตนาที่จะล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย และได้แสดงความเห็นถึงการใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญว่า ควรกระทำเมื่อมีความชัดเจนในพฤติการณ์ ไม่ใช่ใช้จินตนาการ และการคาดการณ์ว่าจะมีการเกิดเหตุการณ์ขึ้น พร้อมกับย้ำว่าการแก้รัฐธรรมนูญนั้น เพื่อสร้างความเป็นประชาธิปไตย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ไม่ได้มาจากการรัฐประหาร
จากนั้นเป็นการเบิกความของนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ได้เบิกความย้ำถึงการดำเนินการเสนอร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีการแก้ไขในนามของพรรคว่า เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพรรคที่เห็นว่า สาระสำคัญในรัฐธรรมนูญปี 2550 นั้น ขาดความเป็นประชาธิปไตย มีอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน และมีอุปสรรคในการพัฒนาการเมือง จึงเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้มีแนวคิดมุ่งหวังเพียงการล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย เพราะว่าขณะนี้เองยังไม่มีการนำเสนอสาระของการแก้ไขว่า มีรายละเอียดอย่างไร
จากนั้นเป็นการเบิกความของนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ได้เบิกความย้ำถึงการดำเนินการเสนอร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีการแก้ไขในนามของพรรคว่า เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพรรคที่เห็นว่า สาระสำคัญในรัฐธรรมนูญปี 2550 นั้น ขาดความเป็นประชาธิปไตย มีอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน และมีอุปสรรคในการพัฒนาการเมือง จึงเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้มีแนวคิดมุ่งหวังเพียงการล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย เพราะว่าขณะนี้เองยังไม่มีการนำเสนอสาระของการแก้ไขว่า มีรายละเอียดอย่างไร