ความคืบหน้ากรณีผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาพระราม 4 ยักยอกเงินในบัญชี น.ส.เอื้อมบุญ จันทรสมา ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลทุพพลภาพไปถึง 107 ล้านบาท ล่าสุดพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เรียกผู้เสียหายและพยานเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับผู้เสียหายลงลายมือชื่อตัวอย่างในสำนวนสอบสวน เพื่อนำไปพิสูจน์เปรียบเทียบกับลายมือชื่อที่ปรากฏในใบถอนเงิน
ด้าน นายอดิชาติ ก้อนทอง(***)คนขับรถผู้เสียหาย ได้ให้ปากคำในฐานะพยาน โดยตั้งข้อสังเกตว่า ผู้เสียหายมีบ้านพักย่านนนทบุรี แต่ต้องเดินทางไปพบผู้จัดการคนดังกล่าวที่ธนาคารสาขาพระราม 4 และทุกครั้งที่จะทำธุรกรรมการเงินต้องนัดล่วงหน้า ผิดจากการเป็นลูกค้าธนาคารทั่วไป และเมื่อถึงธนาคารต้องนั่งรอนานถึง 30-45 นาที หลายครั้งพยายามทักท้วงเจ้านายแต่ไม่เป็นผล
ขณะที่ น.ส.เยาวลักษณ์ ศรีมาลานนท์ น้องสาวบุญธรรมของผู้เสียหาย ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยเจรจากับผู้จัดการถึง 3 ครั้ง ได้รับคำตอบว่า จะยอมชดใช้ค่าเสียหายให้เพียงบางส่วน แต่ผู้เสียหายต้องไม่ติดใจเอาความ และต้องมอบเอกสารหลักฐานที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคืนให้ผู้จัดการทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายยืนยันว่า เงินในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งหมดหายไป 107 ล้านบาทจริง ขณะนี้รอให้ธนาคารมอบบัญชีปลายทั้งหมดที่เงินทั้งหมดถูกโอนไปให้
ด้าน นายอดิชาติ ก้อนทอง(***)คนขับรถผู้เสียหาย ได้ให้ปากคำในฐานะพยาน โดยตั้งข้อสังเกตว่า ผู้เสียหายมีบ้านพักย่านนนทบุรี แต่ต้องเดินทางไปพบผู้จัดการคนดังกล่าวที่ธนาคารสาขาพระราม 4 และทุกครั้งที่จะทำธุรกรรมการเงินต้องนัดล่วงหน้า ผิดจากการเป็นลูกค้าธนาคารทั่วไป และเมื่อถึงธนาคารต้องนั่งรอนานถึง 30-45 นาที หลายครั้งพยายามทักท้วงเจ้านายแต่ไม่เป็นผล
ขณะที่ น.ส.เยาวลักษณ์ ศรีมาลานนท์ น้องสาวบุญธรรมของผู้เสียหาย ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยเจรจากับผู้จัดการถึง 3 ครั้ง ได้รับคำตอบว่า จะยอมชดใช้ค่าเสียหายให้เพียงบางส่วน แต่ผู้เสียหายต้องไม่ติดใจเอาความ และต้องมอบเอกสารหลักฐานที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคืนให้ผู้จัดการทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายยืนยันว่า เงินในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งหมดหายไป 107 ล้านบาทจริง ขณะนี้รอให้ธนาคารมอบบัญชีปลายทั้งหมดที่เงินทั้งหมดถูกโอนไปให้