พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบขบวนการทุจริตสอบนายสิบตำรวจ ว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการทุจริตสอบแล้ว จำนวน 32 ราย และหลบหนีอีก 6 ราย โดยพบมีการกระจายความผิดอยู่ทุกพื้นที่ ทั้งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2, 3, 5, 6, 9 และ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. และยังพบการกระทำผิดเพิ่มในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1, 4, 7 และ 8 แสดงให้เห็นว่า ขบวนการทุจริตสอบเป็นขบวนการใหญ่
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหารายสำคัญและเป็นตัวการใหญ่การทุจริตสอบครั้งนี้ คือ นายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร อายุ 29 ปี ชาวลำปาง ผู้ต้องหาตามหมายจับ พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อและจัดหาอุปกรณ์การส่งสัญญาณวิทยุ และเป็นตัวการประสานด้านวิชาการ หากสามารถจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ จะสามารถหาความเชื่อมโยงยังทุกกลุ่มผู้กระทำผิดทั้ง 10 สาย ได้อย่างแน่นอน เบื้องต้น จากการสืบสวนเชื่อว่า ผู้ต้องหายังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ด้าน พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า เครื่องส่งสัญญาณวิทยุในการทุจริตทั้งหมด ผลิตและประกอบโดยบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จำนวน 180 เครื่อง โดยตกไปอยู่ในกลุ่มผู้กระทำผิดจำนวน 80 เครื่อง มีการซื้อขายในราคา 4,000 - 5,000 บาท และสั่งซื้อโดย นายวิบูลย์ศักดิ์ ผู้ต้องหารายสำคัญ
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหารายสำคัญและเป็นตัวการใหญ่การทุจริตสอบครั้งนี้ คือ นายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร อายุ 29 ปี ชาวลำปาง ผู้ต้องหาตามหมายจับ พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อและจัดหาอุปกรณ์การส่งสัญญาณวิทยุ และเป็นตัวการประสานด้านวิชาการ หากสามารถจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ จะสามารถหาความเชื่อมโยงยังทุกกลุ่มผู้กระทำผิดทั้ง 10 สาย ได้อย่างแน่นอน เบื้องต้น จากการสืบสวนเชื่อว่า ผู้ต้องหายังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ด้าน พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า เครื่องส่งสัญญาณวิทยุในการทุจริตทั้งหมด ผลิตและประกอบโดยบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จำนวน 180 เครื่อง โดยตกไปอยู่ในกลุ่มผู้กระทำผิดจำนวน 80 เครื่อง มีการซื้อขายในราคา 4,000 - 5,000 บาท และสั่งซื้อโดย นายวิบูลย์ศักดิ์ ผู้ต้องหารายสำคัญ
