นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ารู้สึกข้องใจกับกรณีที่ดีเอสไอมีคำสั่งไม่ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในข้อหาหมิ่นสถาบัน ซึ่งเห็นว่าการปราศรัยของนายจตุพร และพวก มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าดีเอสไอใช้ดุลพินิจอย่างไรในการตัดสินคดีดังกล่าว โดยนายธาริต ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอปฏิบัติตามมาตรฐานของกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ซึ่งในการทำคดีได้มีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนจำนวน 10 คนขึ้นไป พร้อมกับมีพนักงานอัยการสูงสุดเข้าร่วมสอบสวนในคดีนี้ด้วย
นอกจากนี้ ในการสั่งคดี ดีเอสไอเป็นเพียงผู้ลงความเห็นเบื้องต้นเท่านั้น โดยหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ดังนั้น จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาดีเอสไอไม่ได้ดำเนินการตามอำเภอใจแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า การที่นายสุเทพ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการสั่งไม่ฟ้องนายจตุพร นั้น จะเชื่อมโยงกับคดีการครอบครองที่สาธารณะบนเทือกเขาแพง ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ ของนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายของนายสุเทพ ที่ดีเอสไอรับเข้ามาเป็นคดีพิเศษ นายธาริต กล่าวว่า คดีดังกล่าวไม่ได้มีความเชื่อมโยงกัน และไม่ได้คิดว่าจะเป็นการกดดันในเรื่องคดีแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนของคดีเขาแพงนั้น ดีเอสไอต้องดำเนินการต่อไปอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ในการสั่งคดี ดีเอสไอเป็นเพียงผู้ลงความเห็นเบื้องต้นเท่านั้น โดยหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ดังนั้น จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาดีเอสไอไม่ได้ดำเนินการตามอำเภอใจแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า การที่นายสุเทพ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการสั่งไม่ฟ้องนายจตุพร นั้น จะเชื่อมโยงกับคดีการครอบครองที่สาธารณะบนเทือกเขาแพง ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ ของนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายของนายสุเทพ ที่ดีเอสไอรับเข้ามาเป็นคดีพิเศษ นายธาริต กล่าวว่า คดีดังกล่าวไม่ได้มีความเชื่อมโยงกัน และไม่ได้คิดว่าจะเป็นการกดดันในเรื่องคดีแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนของคดีเขาแพงนั้น ดีเอสไอต้องดำเนินการต่อไปอยู่แล้ว