นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโครงการ "พักชำระหนี้ 3 ปี" ว่า จะพักชำระหนี้แก่ลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดีในกลุ่มเกษตรรายย่อย และผู้มีรายได้น้อย ที่มีมูลหนี้คงค้างไม่เกิน 500,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี เปิดโอกาสให้ลูกหนี้เลือกพักเงินต้นพร้อมกับลดอัตราดอกเบี้ยให้ 3 เปอร์เซ็นต์ หรือลดดอกเบี้ย 3 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่พักเงินต้นและกู้เพิ่มได้ตามศักยภาพของลูกหนี้ในอัตราดอกเบี้ยปกติ โดยทั้งสองกรณีสามารถกู้เพิ่มได้ตามศักยภาพการชำระหนี้ ซึ่งจะเริ่มพักชำระหนี้ได้ตั้งแต่ 1 กันยายน 2555 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558 โดยรัฐบาลจะเปิดให้ลูกหนี้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ฯ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2555 ถึง 20 สิงหาคม 2555 ลูกหนี้ที่มาลงทะเบียนจะรับทราบผลทันที
สำหรับกลุ่มเป้าหมายลูกหนี้ที่เข้าข่ายโครงการพักชำระหนี้ฯ นี้มีจำนวนประมาณ 3.8 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้คงค้างประมาณ 460,000 ล้านบาท แบ่งเป็นลูกค้าจาก ธ.ก.ส. จำนวน 2.9 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 390,000 ล้านบาท ธนาคารออมสิน 840,000 ราย มูลหนี้ 64,000 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) 7,800 ราย มูลหนี้ 1,400 ล้านบาท และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBank) จำนวน 3,500 ราย มูลหนี้ 450 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าผลจากโครงการชำระพักหนี้ฯ ในครั้งนี้ จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจประมาณร้อยละ 0.4-0.7 ต่อปี หรือ 44,000-77,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับกลุ่มเป้าหมายลูกหนี้ที่เข้าข่ายโครงการพักชำระหนี้ฯ นี้มีจำนวนประมาณ 3.8 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้คงค้างประมาณ 460,000 ล้านบาท แบ่งเป็นลูกค้าจาก ธ.ก.ส. จำนวน 2.9 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 390,000 ล้านบาท ธนาคารออมสิน 840,000 ราย มูลหนี้ 64,000 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) 7,800 ราย มูลหนี้ 1,400 ล้านบาท และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBank) จำนวน 3,500 ราย มูลหนี้ 450 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าผลจากโครงการชำระพักหนี้ฯ ในครั้งนี้ จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจประมาณร้อยละ 0.4-0.7 ต่อปี หรือ 44,000-77,000 ล้านบาทต่อปี
