นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าของปัญหาการรั่วไหลของยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ออกจากโรงพยาบาลในสังกัด ว่า มาตรการเร่งด่วนในการควบคุมยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) หลังจากที่ออกประกาศควบคุมยาดังกล่าวเป็นวัตถุออกฤทธิ์เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2555 ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการ 3 เรื่อง ได้แก่ การจัดระบบรองรับยาส่งคืนจากร้านขายยา สถานบริการที่ไม่ประสงค์จะครอบครองยาตรวจสอบยอดคงเหลือ เพื่อเข้าสู่ระบบการจ่ายยาวัตถุออกฤทธิ์ การจัดระบบจำหน่ายยาที่คงเหลือในทุกบริษัท ให้แก่สถานบริการที่มีประกาศครอบครองการใช้ยาที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์ โดยให้ทุกสถานพยาบาลทำแผน และประมาณการใช้ยาล่วงหน้ามาที่ อย. และเมื่อมีใบสั่งซื้อไปที่บริษัทจะมีระบบบันทึกการรายงานเพื่อการดำเนินการตรวจสอบ และการจัดระบบยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ของประเทศให้ชัดเจน ทั้งจำนวน สูตรตำรับยาที่จะผลิตในอนาคต และการมอบหมายบริษัทผู้ผลิต เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อการใช้ และสามารถตรวจสอบได้ทันที
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ผลการตรวจสอบระบบการบริหารยาและเวชภัณฑ์ยาในโรงพยาบาลทุกระดับที่อยู่ในสังกัดกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ พบว่า ร้อยละ 99 มีระบบการควบคุมที่เข้มแข็ง และปฏิบัติตามกรอบที่กระทรวงสาธารณสุขได้วางไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2530 ทั้งยาทั่วไปและยาควบคุมพิเศษ มีปัญหาเพียง 8 แห่งเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 1 ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อยมาก และจะดำเนินการด้านวินัยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมวางระบบป้องกันในอนาคต ขอให้ประชาชนเชื่อ มั่นใจในศักยภาพระบบบริการ ซึ่งจะมีการพัฒนาประสิทธิภาพกลไกการบริการให้มากขึ้นต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เป็นสถานบริการที่ใกล้บ้านใกล้ใจประชาชน
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ผลการตรวจสอบระบบการบริหารยาและเวชภัณฑ์ยาในโรงพยาบาลทุกระดับที่อยู่ในสังกัดกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ พบว่า ร้อยละ 99 มีระบบการควบคุมที่เข้มแข็ง และปฏิบัติตามกรอบที่กระทรวงสาธารณสุขได้วางไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2530 ทั้งยาทั่วไปและยาควบคุมพิเศษ มีปัญหาเพียง 8 แห่งเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 1 ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อยมาก และจะดำเนินการด้านวินัยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมวางระบบป้องกันในอนาคต ขอให้ประชาชนเชื่อ มั่นใจในศักยภาพระบบบริการ ซึ่งจะมีการพัฒนาประสิทธิภาพกลไกการบริการให้มากขึ้นต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เป็นสถานบริการที่ใกล้บ้านใกล้ใจประชาชน