นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ระยะนี้ จ.ภูเก็ต เกิดแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกมาหลายครั้ง แม้แผ่นดินไหว และสึนามิ จะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่สามารถคาดการณ์ระยะเวลาและสถานที่เกิด รวมถึงระดับความรุนแรงได้ แต่สามารถป้องกันและลดความสูญเสียได้ หากมีระบบการแจ้งเตือนภัยที่รวดเร็ว แม่นยำ เข้าถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง วางระบบการแจ้งเตือนภัยให้สมบูรณ์ จึงได้เร่งพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัยที่มีอยู่ให้เป็นระบบมากขึ้น ครอบคลุมทุกประเภทภัย โดยเชื่อมโยงกับแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือภัยพิบัติ ทั้งในช่วงก่อน ขณะ และหลังเกิดภัย โดยเฉพาะการอพยพประชาชน และการจัดเส้นทางจราจรในการอพยพ ซึ่งจะทำให้การแจ้งเตือนภัยนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว และการอพยพประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงจะช่วยลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นในระบบการแจ้งเตือนภัย และเสริมสร้างภาพลักษณ์แก่ประเทศด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง วางระบบการแจ้งเตือนภัยให้สมบูรณ์ จึงได้เร่งพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัยที่มีอยู่ให้เป็นระบบมากขึ้น ครอบคลุมทุกประเภทภัย โดยเชื่อมโยงกับแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือภัยพิบัติ ทั้งในช่วงก่อน ขณะ และหลังเกิดภัย โดยเฉพาะการอพยพประชาชน และการจัดเส้นทางจราจรในการอพยพ ซึ่งจะทำให้การแจ้งเตือนภัยนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว และการอพยพประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงจะช่วยลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นในระบบการแจ้งเตือนภัย และเสริมสร้างภาพลักษณ์แก่ประเทศด้วย
