นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์การค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลการวิเคราะห์ประเมิน 2 ปี ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) พบว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา AEC มีผลบังคับใช้ใน 6 ประเทศอาเซียนเริ่มต้น การส่งออกของไทยไปยังอาเซียนลดลงมากที่สุด ติดลบ 18.7 เปอร์เซ็นต์ โดยการส่งออกไปยังอาเซียน หลังจาก AEC มีผลในปีแรก หรือปี 2553 มีมูลค่า 10,253 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และลดลงเหลือ 7,506 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2554 และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยตกต่ำ มาอยู่ที่ประเภทตกต่ำ จากเดิมที่ถูกจัดอยู่ในประเภทที่ไร้ทิศทาง เพราะต้นทุนการผลิตของไทยนั้นสูงขึ้นจากนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ตลอดจนต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น
ขณะที่ประเทศบรูไน มีการส่งออกไปยังอาเซียนเพิ่มมากที่สุด ร้อยละ 46.9 รองลงมา คือ กัมพูชา ที่มีการส่งออกมายังอาเซียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 27.6
อย่างไรก็ตาม คาดว่าอุตสาหกรรมและเครื่องนุ่งห่มจะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปยังกัมพูชา และพม่ามากขึ้น เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูป ที่จะย้ายฐานการผลิตไปยังพม่า และอินโดนีเซีย มากขึ้น เพราะมีวัตถุดิบจำนวนมาก และค่าแรงต่ำกว่าไทย แต่อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง เครื่องดื่ม และยาสูบ ยังสามารถส่งออกได้ดี แต่อินโดนีเซียก็กำลังขยายส่วนแบ่งการตลาดมาใกล้ไทยแล้ว
ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงว่าเอสเอ็มอีจะแข่งขันได้ยากขึ้น เมื่อเปิดเป็น AEC เต็มรูปแบบในปี 2558 เพราะการแข่งขันจะสูงขึ้น จะต้องบริหารจัดการต้นทุนให้ดี กระจายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ และพัฒนาคุณภาพสินค้า รวมทั้งร่วมกันจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไปยังอินโดนีเซีย และพม่า รวมถึงการร่วมลงทุนกับบริษัทในต่างประเทศด้วย
ขณะที่ประเทศบรูไน มีการส่งออกไปยังอาเซียนเพิ่มมากที่สุด ร้อยละ 46.9 รองลงมา คือ กัมพูชา ที่มีการส่งออกมายังอาเซียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 27.6
อย่างไรก็ตาม คาดว่าอุตสาหกรรมและเครื่องนุ่งห่มจะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปยังกัมพูชา และพม่ามากขึ้น เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูป ที่จะย้ายฐานการผลิตไปยังพม่า และอินโดนีเซีย มากขึ้น เพราะมีวัตถุดิบจำนวนมาก และค่าแรงต่ำกว่าไทย แต่อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง เครื่องดื่ม และยาสูบ ยังสามารถส่งออกได้ดี แต่อินโดนีเซียก็กำลังขยายส่วนแบ่งการตลาดมาใกล้ไทยแล้ว
ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงว่าเอสเอ็มอีจะแข่งขันได้ยากขึ้น เมื่อเปิดเป็น AEC เต็มรูปแบบในปี 2558 เพราะการแข่งขันจะสูงขึ้น จะต้องบริหารจัดการต้นทุนให้ดี กระจายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ และพัฒนาคุณภาพสินค้า รวมทั้งร่วมกันจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไปยังอินโดนีเซีย และพม่า รวมถึงการร่วมลงทุนกับบริษัทในต่างประเทศด้วย