น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมหลักวิชาการหลักสุขภาพถ้วนหน้าในทศวรรษที่ 2 ที่โรงแรมรามา กาเด้น เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลต่อหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าว่า อยากเห็นคนไทยสุขภาพดี และการดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอยากเห็นการป้องกันสุขภาพมากกว่าการรักษา และการรับการดูแลที่เท่าเทียมกัน ซึ่งโครงการ 30 บาท อยากให้ประชาชนคิดว่าเข้ามาซื้อบริการมากกว่าการขอรับบริการ เพราะการให้บริการจะแตกต่างกัน ซึ่งในโครงการ 30 บาทถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ปี 2547 - 2555 มีประชาชนสนใจเข้ารับบริการมากขึ้น เนื่องจากการบูรณาการจาก 3 กองทุน คือ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หลักประกันสังคม และ กองทุนสวัสดิการข้าราชการ เพื่อให้การรักษาพยาบาลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน 1 เมษายนนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า การลดความเหลื่อมล้ำของ 3 กองทุน จะทำให้การบริการสาธารณสุขมีคุณภาพมากขึ้น ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคในการรักษา โดยสามารถให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษาจากต่างจังหวัดผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ อย่างไรก็ตามการรักษาพยาบาลฉุกเฉินผู้ป่วยจะเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล แม้แต่โรงพยาบาลเอกชน เพียงยื่นบัตรประชาชน ส่วนค่าใช้จ่าย สปสช.จะเข้าไปเคลียร์ค่ารักษาจากสังกัดของผู้ป่วยเอง
นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า การลดความเหลื่อมล้ำของ 3 กองทุน จะทำให้การบริการสาธารณสุขมีคุณภาพมากขึ้น ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคในการรักษา โดยสามารถให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษาจากต่างจังหวัดผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ อย่างไรก็ตามการรักษาพยาบาลฉุกเฉินผู้ป่วยจะเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล แม้แต่โรงพยาบาลเอกชน เพียงยื่นบัตรประชาชน ส่วนค่าใช้จ่าย สปสช.จะเข้าไปเคลียร์ค่ารักษาจากสังกัดของผู้ป่วยเอง