เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อสืบสวนคดียาแก้หวัด หนึ่งในสารตั้งต้นที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน หายไปจากโรงพยาบาลกมลาไสย กว่า 350,000 เม็ด โดย พ.ต.ท.สะอาด สุนทร ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ 3 ได้เข้ารวบรวมข้อมูลจากพนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสย เบื้องต้นเชื่อว่ายาที่หายไปจากโรงพยาบาลแห่งนี้ มีความเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลสันกำแพง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากมีระบบการสั่งซื้อที่คล้ายกัน และทำให้เชื่อว่าสารตั้งต้นที่หายไปจะถูกนำมาผลิตเป็นยาบ้า ขณะนี้ดีเอสไอยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน และสืบหาต้นตอของแหล่งรับซื้อยา
พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีนี้จะสามารถสรุปสำนวนเพื่อส่งให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ในสัปดาห์นี้
ด้านคดีมีหลักฐานชัดเจน โดยเฉพาะใบเสร็จที่ถูกแต่งบัญชีใหม่ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ จะให้ปากคำในวันพรุ่งนี้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ตำรวจสรุปแหล่งรับซื้อและตอบคำถามถึงยาที่ถูกจำหน่ายไปได้ ส่วนพยานเอกสารนั้น ยืนยันได้ว่า มีผู้ต้องสงสัยที่ตกเป็นผู้ต้องหาอย่างน้อย 3-5 คน เพราะมีหลักฐานการยักยอกยาออกจากโรงพยาบาล ส่วนเส้นทางการเดินยานั้น ทราบเพียงว่ายาเกือบทั้งหมดที่หายไป ถูกนำส่งไปขายให้กับอดีตเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกมลาไสย ใน จ.กาฬสินธุ์
พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีนี้จะสามารถสรุปสำนวนเพื่อส่งให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ในสัปดาห์นี้
ด้านคดีมีหลักฐานชัดเจน โดยเฉพาะใบเสร็จที่ถูกแต่งบัญชีใหม่ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ จะให้ปากคำในวันพรุ่งนี้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ตำรวจสรุปแหล่งรับซื้อและตอบคำถามถึงยาที่ถูกจำหน่ายไปได้ ส่วนพยานเอกสารนั้น ยืนยันได้ว่า มีผู้ต้องสงสัยที่ตกเป็นผู้ต้องหาอย่างน้อย 3-5 คน เพราะมีหลักฐานการยักยอกยาออกจากโรงพยาบาล ส่วนเส้นทางการเดินยานั้น ทราบเพียงว่ายาเกือบทั้งหมดที่หายไป ถูกนำส่งไปขายให้กับอดีตเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกมลาไสย ใน จ.กาฬสินธุ์
