นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีลักลอบนำยาแก้หวัดที่มีสารซูโดอีเฟดรีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นยาบ้า และยาไอซ์ ออกจากโรงพยาบาล ว่าในวันจันทร์ที่ 26 มีนาคมนี้ ดีเอสไอจะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. เพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากคดีมีความซับซ้อน ทำเป็นเครือข่าย ทั้งนี้เชื่อว่า หากรับเป็นคดีพิเศษแล้วจะทำให้การดำเนินคดีมีความคืบหน้า โดยขณะนี้มีข้อมูลว่า ตั้งแต่ปี 2551 ถึงเดือนกรกฎาคม 2554 มีการจับกุมยาแก้หวัดลักลอบออกจากระบบ จำนวน 44,400,000 เม็ด คาดว่าจำนวนแท้จริงที่หายออกจากระบบ สูงกว่าปริมาณที่จับกุม เบื้องต้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. รายงานว่า พบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาของโรงพยาบาล 22 แห่ง หลังจากรับเป็นคดีพิเศษ จำเป็นต้องเรียกผู้อำนวยการโรงพยาบาลเข้าชี้แจงข้อมูล
ทั้งนี้ เห็นว่ายังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า มีบุคคลระดับใดเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงยังไม่พบข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ อย.มีส่วนรู้เห็น เนื่องจาก อย.เป็นเพียงผู้กำกับ ตรวจสอบปริมาณ ขณะที่การตรวจสอบพบ ยาแก้หวัดเล็ดลอดออกจากระบบของโรงพยาบาล บางแห่งพบว่ามีการรายงานเท็จ
ทั้งนี้ เห็นว่ายังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า มีบุคคลระดับใดเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงยังไม่พบข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ อย.มีส่วนรู้เห็น เนื่องจาก อย.เป็นเพียงผู้กำกับ ตรวจสอบปริมาณ ขณะที่การตรวจสอบพบ ยาแก้หวัดเล็ดลอดออกจากระบบของโรงพยาบาล บางแห่งพบว่ามีการรายงานเท็จ