การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (13 มี.ค.) ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเรียกความเชื่อมั่นกับนักลงทุนประเทศต่างๆ โดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) จะเสนอโครงการแก้ไขปัญหาน้ำระยะเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคม แบบบูรณาการ จำนวน 246 โครงการ วงเงิน 24,000 ล้านบาท เพื่อให้สามารถรับมือและแก้ไขปัญหาน้ำให้ทันกับฤดูฝน
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะเสนอของบประมาณ 1,500 ล้านบาท จัดทำโครงการ 1 ร้านธงฟ้า 1 ชุมชน ปรับรูปแบบธงฟ้าให้เข้าถึงแหล่งชุมชน และอาจมีการปรับเปลี่ยนชื่อ พร้อมทั้งตรวจสอบราคาต้นทุนสินค้าที่แท้จริง
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเสนอให้รับทราบและเห็นชอบร่างระเบียบการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยจะเป็นการจ่ายเงินในลักษณะเดียวกับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง รวมถึงแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษาให้กับประชาชนด้วย
นอกจากนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 3 เดือน อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า หลังจากใช้นโยบายใหม่ในการแก้ไขปัญหา จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งจะมีการประเมินผลทุก 3 เดือน
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีการหารือในเรื่องพลังงานด้วย โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันแพง
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะเสนอของบประมาณ 1,500 ล้านบาท จัดทำโครงการ 1 ร้านธงฟ้า 1 ชุมชน ปรับรูปแบบธงฟ้าให้เข้าถึงแหล่งชุมชน และอาจมีการปรับเปลี่ยนชื่อ พร้อมทั้งตรวจสอบราคาต้นทุนสินค้าที่แท้จริง
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเสนอให้รับทราบและเห็นชอบร่างระเบียบการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยจะเป็นการจ่ายเงินในลักษณะเดียวกับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง รวมถึงแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษาให้กับประชาชนด้วย
นอกจากนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 3 เดือน อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า หลังจากใช้นโยบายใหม่ในการแก้ไขปัญหา จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งจะมีการประเมินผลทุก 3 เดือน
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีการหารือในเรื่องพลังงานด้วย โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันแพง