การหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันให้ดำเนินคดีกับข้าราชการ ที่เข้ามามีส่วนในการออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบ หลังเมื่อวานนี้ ป.ป.ท.ลงตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติใน จ.ภูเก็ต และพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เพื่อการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มทุนต่างๆ
ด้านนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ปัญหาการบุกรุกที่ดินโดยเฉพาะป่าสงวนแห่งชาติที่บริเวณแนวเขาใน จ.ภูเก็ตเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากที่ดินมีราคาสูง และเป็นที่ต้องการของกลุ่มทุน โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่ยังสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อว่าหากไม่มีการสกัดกั้นอาจเกิดปัญหาดินสไลด์ หรือดินถล่มในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พร้อมกันนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ตรวจสอบการขอเอกสารสิทธิบนพื้นที่ที่เข้าข่ายห้ามมีโฉนด
ขณะที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ เลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า แม้ ป.ป.ท.มีหน้าที่เพียงการตรวจสอบการทุจริตเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ปัญหาการบุกรุกที่ดินเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ภูเก็ต แต่หลังจากนี้จะขอความร่วมมือกับดีเอสไอ ในการทำคดีบุกรุกร่วมกับ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่พบการทำความผิด และกระทรวงมหาดไทยในการดำเนินการลงโทษกับข้าราชการ
ด้านนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ปัญหาการบุกรุกที่ดินโดยเฉพาะป่าสงวนแห่งชาติที่บริเวณแนวเขาใน จ.ภูเก็ตเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากที่ดินมีราคาสูง และเป็นที่ต้องการของกลุ่มทุน โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่ยังสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อว่าหากไม่มีการสกัดกั้นอาจเกิดปัญหาดินสไลด์ หรือดินถล่มในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พร้อมกันนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ตรวจสอบการขอเอกสารสิทธิบนพื้นที่ที่เข้าข่ายห้ามมีโฉนด
ขณะที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ เลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า แม้ ป.ป.ท.มีหน้าที่เพียงการตรวจสอบการทุจริตเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ปัญหาการบุกรุกที่ดินเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ภูเก็ต แต่หลังจากนี้จะขอความร่วมมือกับดีเอสไอ ในการทำคดีบุกรุกร่วมกับ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่พบการทำความผิด และกระทรวงมหาดไทยในการดำเนินการลงโทษกับข้าราชการ