ช่วงเช้าที่ผ่านมา องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมวินิจฉัย พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศ โดยเป็นการส่งคำวินิจฉัยส่วนตนและลงมติ
ตามระเบียบ การลงมติต้องเป็นไปตามเสียงข้างมาก หรือ 2 ใน 3 ชี้ขาดด้วยเสียง 6 เสียงขึ้นไป จากทั้งหมด 9 เสียง และตามคำร้องจะวินิจฉัย 2 ประเด็น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรค 1 และ 2 ว่าด้วย 1. เป็น พ.ร.ก.เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือไม่ 2. เป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ และเมื่อลงมติแล้วจะมีการร่างคำวินิจฉัยกลาง ซึ่งถือเป็นคำตัดสินของคดี และนำมาแถลงต่อสาธารณะ
สำหรับการอ่านคำวินิจฉัยกลางจะมีขึ้นในเวลา 14.00 น. โดยคาดว่าจะใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้หาก พ.ร.ก.จะถูกวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ และจะมีการขับเคลื่อนตราเป็นพระราชบัญญัติแทน เนื่องจากมีรายงานถึงการประสานไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้บรรจุวาระพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 75 วัน และหากเสียงข้างมากของสภาฯ ให้ความเห็นชอบในร่างกฎหมาย แต่วุฒิสภากลับเห็นต่างนั้น สภาฯ ก็สามารถลงมติยืนยันเพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้โดยเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 251 เสียงขึ้นไป
การรับฟังคำวินิจฉัยในช่วงบ่ายวันนี้ รัฐบาลในฐานะผู้ถูกร้อง มอบหมายให้นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นตัวแทนเข้ารับฟังคำวินิจฉัย ขณะที่ผู้ร้อง คือ นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้ารับฟังด้วยตัวเอง ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นผู้ร้องอีกกลุ่มหนึ่ง ก็จะเดินทางมาฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองเช่นกัน
ตามระเบียบ การลงมติต้องเป็นไปตามเสียงข้างมาก หรือ 2 ใน 3 ชี้ขาดด้วยเสียง 6 เสียงขึ้นไป จากทั้งหมด 9 เสียง และตามคำร้องจะวินิจฉัย 2 ประเด็น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรค 1 และ 2 ว่าด้วย 1. เป็น พ.ร.ก.เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือไม่ 2. เป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ และเมื่อลงมติแล้วจะมีการร่างคำวินิจฉัยกลาง ซึ่งถือเป็นคำตัดสินของคดี และนำมาแถลงต่อสาธารณะ
สำหรับการอ่านคำวินิจฉัยกลางจะมีขึ้นในเวลา 14.00 น. โดยคาดว่าจะใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้หาก พ.ร.ก.จะถูกวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ และจะมีการขับเคลื่อนตราเป็นพระราชบัญญัติแทน เนื่องจากมีรายงานถึงการประสานไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้บรรจุวาระพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 75 วัน และหากเสียงข้างมากของสภาฯ ให้ความเห็นชอบในร่างกฎหมาย แต่วุฒิสภากลับเห็นต่างนั้น สภาฯ ก็สามารถลงมติยืนยันเพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้โดยเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 251 เสียงขึ้นไป
การรับฟังคำวินิจฉัยในช่วงบ่ายวันนี้ รัฐบาลในฐานะผู้ถูกร้อง มอบหมายให้นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นตัวแทนเข้ารับฟังคำวินิจฉัย ขณะที่ผู้ร้อง คือ นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้ารับฟังด้วยตัวเอง ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นผู้ร้องอีกกลุ่มหนึ่ง ก็จะเดินทางมาฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองเช่นกัน