คณะผู้ตรวจสอบนิวเคลียร์ของยูเอ็นเดินทางถึงเตหะรานแล้วเมื่อวันจันทร์ (20) หรือหนึ่งวันหลังจากเตหะรานระงับการขายน้ำมันให้อังกฤษและฝรั่งเศส ตอบโต้มาตรการแซงก์ชันของอียู ดันราคาน้ำมันทะยานทุบสถิติอีกครั้ง
เฮอร์แมน แนกเคิร์ต หัวหน้าคณะผู้ตรวจสอบนิวเคลียร์ของทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) อันเป็นองค์กรชำนาญพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความหวังว่า การหารือ 2 วันในอิหร่านคราวนี้ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของมิติทางการทหารของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ควรจะมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม แต่เรื่องนี้อาจต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ นอกจากอิหร่านจะไม่เกรงกลัวแล้ว ยังกำลงท้าทายการแซงก์ชันของฝ่ายตะวันตก ตลอดจนการขู่ใช้กำลังทหารของอิสราเอล อย่างหนักข้อขึ้น โดยในวันอาทิตย์ (19) กระทรวงน้ำมันอิหร่านแถลงระงับการส่งออกน้ำมันดิบให้อังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อตอบโต้ที่สหภาพยุโรป (อียู) เริ่มการห้ามนำเข้าน้ำมันอิหร่านโดยที่จะมีผลสมบูรณ์ในอีก 5 เดือนข้างหน้า
คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวถึงการตอบโต้ของเตหะรานนี้ว่า ไม่ได้ทำให้อียูขาดแคลนน้ำมันแต่อย่างใด เนื่องจากมีน้ำมันสำรองพอเพียงสำหรับ 120 วัน นอกจากนี้ แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมยังเผยว่า ผู้ซื้อน้ำมันในยุโรปได้ลดการสั่งซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านลงอย่างมากมาหลายเดือนแล้ว
อย่างไรก็ดี แม้อิหร่านจัดหาน้ำมันไม่ถึง 3% ของน้ำมันที่ฝรั่งเศสนำเข้า และเกือบ 0% สำหรับอังกฤษ แต่เทรดเดอร์ต่างกังวลกับข่าวนี้ เนื่องจากเป็นไปได้ว่า เตหะรานอาจขยายผลไปยังชาติอื่นๆ ในยุโรปที่รวมกันแล้วสั่งซื้อน้ำมันดิบถึง 20% ของปริมาณการผลิตของอิหร่าน
ด้วยเหตุนี้ ราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนต์สำหรับการส่งมอบเดือนเมษายนจึงทะยานทุบสถิติรอบ 5 เดือนโดยพุ่งขึ้น 1.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 121.10 ดอลลาร์ในตลาดเอเชียวันจันทร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบไลต์สวีทครูดของนิวยอร์กสำหรับการส่งมอบเดือนมีนาคมพุ่งขึ้น 1.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 104,96 ดอลลาร์
เฮอร์แมน แนกเคิร์ต หัวหน้าคณะผู้ตรวจสอบนิวเคลียร์ของทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) อันเป็นองค์กรชำนาญพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความหวังว่า การหารือ 2 วันในอิหร่านคราวนี้ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของมิติทางการทหารของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ควรจะมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม แต่เรื่องนี้อาจต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ นอกจากอิหร่านจะไม่เกรงกลัวแล้ว ยังกำลงท้าทายการแซงก์ชันของฝ่ายตะวันตก ตลอดจนการขู่ใช้กำลังทหารของอิสราเอล อย่างหนักข้อขึ้น โดยในวันอาทิตย์ (19) กระทรวงน้ำมันอิหร่านแถลงระงับการส่งออกน้ำมันดิบให้อังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อตอบโต้ที่สหภาพยุโรป (อียู) เริ่มการห้ามนำเข้าน้ำมันอิหร่านโดยที่จะมีผลสมบูรณ์ในอีก 5 เดือนข้างหน้า
คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวถึงการตอบโต้ของเตหะรานนี้ว่า ไม่ได้ทำให้อียูขาดแคลนน้ำมันแต่อย่างใด เนื่องจากมีน้ำมันสำรองพอเพียงสำหรับ 120 วัน นอกจากนี้ แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมยังเผยว่า ผู้ซื้อน้ำมันในยุโรปได้ลดการสั่งซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านลงอย่างมากมาหลายเดือนแล้ว
อย่างไรก็ดี แม้อิหร่านจัดหาน้ำมันไม่ถึง 3% ของน้ำมันที่ฝรั่งเศสนำเข้า และเกือบ 0% สำหรับอังกฤษ แต่เทรดเดอร์ต่างกังวลกับข่าวนี้ เนื่องจากเป็นไปได้ว่า เตหะรานอาจขยายผลไปยังชาติอื่นๆ ในยุโรปที่รวมกันแล้วสั่งซื้อน้ำมันดิบถึง 20% ของปริมาณการผลิตของอิหร่าน
ด้วยเหตุนี้ ราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนต์สำหรับการส่งมอบเดือนเมษายนจึงทะยานทุบสถิติรอบ 5 เดือนโดยพุ่งขึ้น 1.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 121.10 ดอลลาร์ในตลาดเอเชียวันจันทร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบไลต์สวีทครูดของนิวยอร์กสำหรับการส่งมอบเดือนมีนาคมพุ่งขึ้น 1.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 104,96 ดอลลาร์