พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้เชิญญาติและตัวแทนของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชาวบ้านเสียชีวิต 4 ศพ และบาดเจ็บ 5 ราย ที่อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา มาหารือและพูดคุย โดยเฉพาะข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ที่ชาวบ้านขอให้กองทัพดำเนินการอย่างเร่งด่วน แม้ว่าก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ดำเนินการไปแล้วเพื่อให้เกิดความสบายใจของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการถอนทหารพรานคู่กรณีออกจากพื้นที่ การตั้งคณะกรรมการอิสระโดยที่ชาวบ้านเป็นผู้สรรหา
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยนั้น ยืนยันว่า กองทัพไม่ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่กระทำการนอกกฎหมาย พวกที่ทำต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างแน่นอน ส่วนการนำทหารพรานชุดใหม่มาแทนที่ชุดที่มีปัญหานั้น ตนเองขอเวลาประเมินการทำงาน 1 เดือน หากไม่เป็นที่พอใจของชาวบ้าน จะให้ถอนกำลังออกทันที โดยการหารือครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งบรรยากาศ ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจกันมากขึ้น
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการหารือดังกล่าว ตนเองได้นำสารจากผู้บัญชาการทหารบก ที่ฝากแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และฝากเงินช่วยเหลือบำรุงขวัญให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบในครั้งนี้
ในส่วนข้อมูลล่าสุด จากการผ่าชันสูตรศพผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง พบหัวกระสุนปืนลูกซอง หรืออาจจะมีหน่วยงานอื่นร่วมอยู่ด้วย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทหาร ที่เกิดเหตุมีกองกำลังทหารพราน ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ในส่วนของกระสุนปืนลูกซอง ต้องมีการพิสูจน์ทราบว่าเป็นของหน่วยไหน ตนเองอยากให้เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน แต่ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ไม่ได้ใช้ปืนลูกซอง ซึ่งต้องไปดูว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามให้เจ้าหน้าที่ของรัฐชนกับประชาชนหรือไม่ ซึ่งต้องขยายผลต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับประชาชนในพื้นที่
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยนั้น ยืนยันว่า กองทัพไม่ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่กระทำการนอกกฎหมาย พวกที่ทำต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างแน่นอน ส่วนการนำทหารพรานชุดใหม่มาแทนที่ชุดที่มีปัญหานั้น ตนเองขอเวลาประเมินการทำงาน 1 เดือน หากไม่เป็นที่พอใจของชาวบ้าน จะให้ถอนกำลังออกทันที โดยการหารือครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งบรรยากาศ ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจกันมากขึ้น
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการหารือดังกล่าว ตนเองได้นำสารจากผู้บัญชาการทหารบก ที่ฝากแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และฝากเงินช่วยเหลือบำรุงขวัญให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบในครั้งนี้
ในส่วนข้อมูลล่าสุด จากการผ่าชันสูตรศพผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง พบหัวกระสุนปืนลูกซอง หรืออาจจะมีหน่วยงานอื่นร่วมอยู่ด้วย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทหาร ที่เกิดเหตุมีกองกำลังทหารพราน ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ในส่วนของกระสุนปืนลูกซอง ต้องมีการพิสูจน์ทราบว่าเป็นของหน่วยไหน ตนเองอยากให้เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน แต่ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ไม่ได้ใช้ปืนลูกซอง ซึ่งต้องไปดูว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามให้เจ้าหน้าที่ของรัฐชนกับประชาชนหรือไม่ ซึ่งต้องขยายผลต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับประชาชนในพื้นที่
