เวทีประชุมนโยบายแอลกอฮอล์โลก เมื่อเช้านี้ ในหัวข้อ"จากแผนยุทธศาสตร์โลกสู่การปฏิบัติระดับชาติและท้องถิ่น" มีตัวแทนนักวิชาการจาก 59 ประเทศทั่วโลกเข้าประชุม
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ทั่วโลกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 2,000 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประชากรโลก เฉลี่ยแล้วดื่มคนละ 6.13 ลิตรต่อปี ทั้งที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันตราย และเป็นสาเหตุก่อโรคมากกว่า 60 โรค และปีนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วถึง 2,500,000 คน
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คนไทยดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับที่ 40 ของโลก โดยเหล้ากลั่นดื่มมากเป็นอันดับที่ 5 และผู้ดื่มอายุ 15 ปีขึ้นไปมี 16.2 ล้านคน เฉลี่ยดื่มคนละ 18 ลิตรต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 9 เท่า โดยปีที่ผ่านมาช่วงปีใหม่วันเดียว มีอุบัติเหตุจากผู้ดื่มสุราแล้ว 560 กว่าครั้ง เสียชีวิต 76 คน บาดเจ็บกว่า 600 คน ส่วนอุบัติเหตุจราจรบนถนน 90% มาจากผู้ขับขี่ดื่มแอลกอฮอล์ จนมีผู้เสียชีวิต 26,000 คนต่อปี และเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละไม่น้อยกว่า 150,000 ล้านบาท
สำหรับการประชุมนานาชาติในวันนี้ ตั้งเป้าคลอดแผนยุทธศาสตร์ทำให้เกิดอันตรายทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความร่วมมือในการขจัดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นแผนยุทธศาสตร์ให้ทั่วโลกถือเป็นแนวปฏิบัติ เช่น ดื่มไม่ขับ ให้ผู้ติดสุราเข้าถึงการบำบัดง่ายขึ้น
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ทั่วโลกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 2,000 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประชากรโลก เฉลี่ยแล้วดื่มคนละ 6.13 ลิตรต่อปี ทั้งที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันตราย และเป็นสาเหตุก่อโรคมากกว่า 60 โรค และปีนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วถึง 2,500,000 คน
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คนไทยดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับที่ 40 ของโลก โดยเหล้ากลั่นดื่มมากเป็นอันดับที่ 5 และผู้ดื่มอายุ 15 ปีขึ้นไปมี 16.2 ล้านคน เฉลี่ยดื่มคนละ 18 ลิตรต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 9 เท่า โดยปีที่ผ่านมาช่วงปีใหม่วันเดียว มีอุบัติเหตุจากผู้ดื่มสุราแล้ว 560 กว่าครั้ง เสียชีวิต 76 คน บาดเจ็บกว่า 600 คน ส่วนอุบัติเหตุจราจรบนถนน 90% มาจากผู้ขับขี่ดื่มแอลกอฮอล์ จนมีผู้เสียชีวิต 26,000 คนต่อปี และเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละไม่น้อยกว่า 150,000 ล้านบาท
สำหรับการประชุมนานาชาติในวันนี้ ตั้งเป้าคลอดแผนยุทธศาสตร์ทำให้เกิดอันตรายทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความร่วมมือในการขจัดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นแผนยุทธศาสตร์ให้ทั่วโลกถือเป็นแนวปฏิบัติ เช่น ดื่มไม่ขับ ให้ผู้ติดสุราเข้าถึงการบำบัดง่ายขึ้น