คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ที่กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมของ กสทช. เชิญตัวแทนผู้ประกอบการผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่าย ได้แก่ เครือข่ายเอไอเอส ดีแทค ทรู ทีโอที และแคท มาหารือเพื่อขอให้ยกเลิกการกำหนดระยะเวลาเติมเงิน
ทั้งนี้ตัวแทนของผู้คุ้มครองผู้บริโภค ระบุว่า ในปี 2552-2554 มีประชาชนร้องเรียนเฉพาะปัญหาบัตรเติมเงิน 2,062 กรณี ซึ่งไม่ถึงร้อยละ 1 ของจำนวนผู้ใช้บัตรเติมเงินทั้งระบบมากกว่า 63 ล้านเลขหมาย จากจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งระบบ 70 ล้านเลขหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ กสทช.ต้องแก้ปัญหา เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ค่ายมือถือมีสิทธิ์ทำเช่นนี้ได้
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.คุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม ระบุว่า การที่ค่ายมือถือกำหนดให้ประชาชนเติมเงินโทรศัพท์มือถือ ทั้งที่ยังมีจำนวนเงินเดิมเหลืออยู่ เพื่อไม่ให้ถูกตัดสัญญาณนั้นเป็นปัญหาใหญ่ ที่ กสทช.ต้องแก้ปัญหา แต่ต้องหารือกับผู้ประกอบการถึงทางออกที่จะเกิดขึ้นร่วมกัน ว่าค่ายมือถือไม่ต้องการกำหนดระยะเวลาเติมเงินได้หรือไม่ หรือถ้ากำหนดควรจะมีเงื่อนไขเวลาอย่างไร
ทั้งนี้ตัวแทนของผู้คุ้มครองผู้บริโภค ระบุว่า ในปี 2552-2554 มีประชาชนร้องเรียนเฉพาะปัญหาบัตรเติมเงิน 2,062 กรณี ซึ่งไม่ถึงร้อยละ 1 ของจำนวนผู้ใช้บัตรเติมเงินทั้งระบบมากกว่า 63 ล้านเลขหมาย จากจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งระบบ 70 ล้านเลขหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ กสทช.ต้องแก้ปัญหา เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ค่ายมือถือมีสิทธิ์ทำเช่นนี้ได้
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.คุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม ระบุว่า การที่ค่ายมือถือกำหนดให้ประชาชนเติมเงินโทรศัพท์มือถือ ทั้งที่ยังมีจำนวนเงินเดิมเหลืออยู่ เพื่อไม่ให้ถูกตัดสัญญาณนั้นเป็นปัญหาใหญ่ ที่ กสทช.ต้องแก้ปัญหา แต่ต้องหารือกับผู้ประกอบการถึงทางออกที่จะเกิดขึ้นร่วมกัน ว่าค่ายมือถือไม่ต้องการกำหนดระยะเวลาเติมเงินได้หรือไม่ หรือถ้ากำหนดควรจะมีเงื่อนไขเวลาอย่างไร
