กลุ่มประชาชน ในนามสภาประชาชนไทยเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 นำโดยนายยอดเยี่ยม ศรีมันตะ ประธานสภาประชาชนนำรายชื่อประชาชน 65,400 รายชื่อ พร้อมร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 291 ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยร่างแก้ไขดังกล่าวนั้นกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนจำนวน 375 คน ตามสัดส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต โดยคุณสมบัติของ ส.ส.ร.ต้องไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ไม่สังกัดพรรคการเมือง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
ขณะที่ความชัดเจนของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของ ส.ส.ล่าสุด นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล เตรียมจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ในเดือนมีนาคม เพื่อให้ทันสมัยการประชุมสามัญนิติบัญญัติ พร้อมย้ำจุดยืนการแก้ไขโดยให้มี ส.ส.ร.เป็นผู้ยกร่าง เพราะหากใช้วิธีการตั้งคณะกรรมาธิการมาดำเนินการเกรงว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ากรอบเวลาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะไม่ทันสมัยประชุมนี้ แม้ว่าทางภาคประชาชนจะมีการยื่นร่างแก้ไขฉบับแรกมาแล้ว แต่ว่ากระบวนการยังต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อ ซึ่งอาจจะใช้เวลานานถึง 3 เดือน และคาบเกี่ยวกับเงื่อนเวลาของสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ที่จะมีการปิดสมัยประชุมในกลางเดือนเมษายนนี้ ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่า ควรชะลอเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อรักษาบรรยากาศความปรองดองและรอผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ ว่ามีข้อเสนอใดบ้าง ขณะที่กรอบเวลาของรัฐบาลในการผลักดันเรื่องดังกล่าวเห็นว่ายังมีเวลาเพียงพอ
ขณะที่ความชัดเจนของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของ ส.ส.ล่าสุด นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล เตรียมจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ในเดือนมีนาคม เพื่อให้ทันสมัยการประชุมสามัญนิติบัญญัติ พร้อมย้ำจุดยืนการแก้ไขโดยให้มี ส.ส.ร.เป็นผู้ยกร่าง เพราะหากใช้วิธีการตั้งคณะกรรมาธิการมาดำเนินการเกรงว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ากรอบเวลาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะไม่ทันสมัยประชุมนี้ แม้ว่าทางภาคประชาชนจะมีการยื่นร่างแก้ไขฉบับแรกมาแล้ว แต่ว่ากระบวนการยังต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อ ซึ่งอาจจะใช้เวลานานถึง 3 เดือน และคาบเกี่ยวกับเงื่อนเวลาของสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ที่จะมีการปิดสมัยประชุมในกลางเดือนเมษายนนี้ ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่า ควรชะลอเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อรักษาบรรยากาศความปรองดองและรอผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ ว่ามีข้อเสนอใดบ้าง ขณะที่กรอบเวลาของรัฐบาลในการผลักดันเรื่องดังกล่าวเห็นว่ายังมีเวลาเพียงพอ
