"หมอมงคล"แนะรัฐพัฒนา 3 ระบบประกันสุขภาพ เน้นเข้าถึงเท่าเทียม

นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของรัฐบาล ที่จะกลับมาจัดเก็บค่ารักษา 30 บาท จากผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง อีกครั้ง เพื่อนำเงินจำนวนนี้ไปพัฒนาระบบบริการให้ดีขึ้น เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มภาระงาน ด้านการเงินการบัญชีให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ต้องทำรายงานส่งให้กับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินของจังหวัดทุกเดือน และหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นจะถูกตรวจสอบ หรือไล่ออกจากงานได้ ขณะที่จำนวนเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันมีอยู่น้อย ไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึง และยังเป็นการสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลด้วย ดังนั้น การจัดเก็บค่าบริการ 30 บาท จากผู้ป่วย ซึ่งรวมเป็นเงินประมาณ 1,100 ล้านบาทต่อปี จึงไม่คุ้มค่า และยิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากขึ้น
สำหรับกระแสข่าวการล้มระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านั้น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น โดยกล่าวเพียงว่า ระบบนี้เป็นระบบที่ก้าวหน้า และได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ ในบรรดาประเทศกำลังพัฒนา มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่สามารถทำได้ จึงขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันพัฒนาระบบนี้ให้ดีขึ้น
ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะจัดประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพ ทั้งสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ให้มีมาตรฐานการรักษาเดียวกันทั้งประเทศนั้น เห็นว่า ทิศทางของหลักประกันสุขภาพข้างหน้า ควรจะเป็นระบบที่มีความเสมอภาค ทำให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน โดยอาจไม่จำเป็นต้องรวมทั้ง 3 กองทุนเข้าด้วยกัน เนื่องจากแต่ละกองทุนมีกฎหมายรองรับและมีที่มาแตกต่างกัน