นายวีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ โฆษกคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) กล่าวถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ว่า ได้ตั้งอนุกรรมการเยียวยา โดยมีนายธงทอง จันทรางศุ เป็นประธาน ซึ่งจะมีการประชุมครั้งแรกในวันที่ 18 มกราคม นี้ เวลา 08.00 น. ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันจะดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งประชาชน ทหาร และตำรวจ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ขณะที่งบประมาณที่จะนำมาใช้นั้น คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการแล้ว แต่ต้องรอผลสรุปของอนุกรรมการ ก่อนตั้งงบเสนอกระทรวงการคลังอีกครั้ง ส่วนจะใช้งบเยียวยาที่เหลือจากรัฐบาลชุดที่แล้ว จำนวน 3,000 ล้านบาทหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่จะเร่งดำเนินการ เนื่องจากมีจำนวนผู้ได้รับผลกระทบเมื่อปี 2548 แล้ว ส่วนคนกระทำผิดกฎหมายในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง จะอยู่ในข่ายเยียวยาหรือไม่นั้น ต้องรอศาลพิพากษา เบื้องต้นได้ให้คณะอนุกรรมการฯ ไปศึกษาหลักเกณฑ์แล้ว
ส่วนกรณีจะมีการเปรียบเทียบการเยียวยากับเหตุการณ์อื่นหรือไม่นั้น โฆษก ปคอป. กล่าวว่า ไม่ใช่ขอบเขตของ ปคอป. ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ที่ถูกนำไปเปรียบเทียบด้วยนั้น ไม่ใช่อำนาจของกรรมการ แต่มีคณะกรรมการอื่นที่เกี่ยวข้องดูแล ยืนยัน เรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นบรรทัดฐานให้มีการชุมนุมเพิ่มขึ้น แต่เป็นเรื่องเยียวยา จากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลให้เกิดความสงบได้ พร้อมยืนยัน ไม่ถูกมองว่า 2 มาตรฐาน และไม่ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงใจ เนื่องจากได้ให้อนุกรรมการ ไปศึกษาว่ากรณีไหนจะจ่ายหรือไม่อย่างไร ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยรัฐบาลไม่ได้เร่งดำเนินการ และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง
ส่วนกรณีจะมีการเปรียบเทียบการเยียวยากับเหตุการณ์อื่นหรือไม่นั้น โฆษก ปคอป. กล่าวว่า ไม่ใช่ขอบเขตของ ปคอป. ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ที่ถูกนำไปเปรียบเทียบด้วยนั้น ไม่ใช่อำนาจของกรรมการ แต่มีคณะกรรมการอื่นที่เกี่ยวข้องดูแล ยืนยัน เรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นบรรทัดฐานให้มีการชุมนุมเพิ่มขึ้น แต่เป็นเรื่องเยียวยา จากการที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลให้เกิดความสงบได้ พร้อมยืนยัน ไม่ถูกมองว่า 2 มาตรฐาน และไม่ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงใจ เนื่องจากได้ให้อนุกรรมการ ไปศึกษาว่ากรณีไหนจะจ่ายหรือไม่อย่างไร ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยรัฐบาลไม่ได้เร่งดำเนินการ และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง
