นายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า สำหรับลูกจ้างที่พร้อมทำงาน แต่นายจ้างขาดการติดต่อ ไม่จ่ายค่าจ้างในช่วงหยุดงาน ถือว่าเข้าข่ายการเลิกจ้าง เพื่อความชัดเจนควรติดต่อขอคำแนะนำกับเจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดต่างๆ และหากนายจ้างไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง แนะนำว่าลูกจ้างควรยื่นคำร้อง คร.7 เพื่อขอใช้เงินจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง มาจ่ายค่าจ้างและค่าชดเชยบางส่วน คือ กรณีค่าจ้างค้างจ่ายจะได้ในอัตราค่าจ้างรายวัน 60 เท่า ส่วนค่าชดเชยจะได้ตามอายุงานใน 3 อัตรา คือทำงาน 120 วัน ไม่เกิน 3 ปี ได้ค่าชดเชย 30 เท่า ทำงาน 3 ปี ไม่เกิน 10 ปี ได้ค่าชดเชย 60 เท่า และ ทำงาน 10 ปีขึ้นไปได้ 90 เท่า ของค่าจ้างรายวัน ส่วนอัตราที่เหลือในอัตราค่าชดเชยที่นายจ้างต้องจ่าย กสร.จะไปติดตามจากนายจ้างมาจ่ายให้ครบต่อไป
สำหรับอัตราค่าชดเชยที่นายจ้างต้องจ่ายตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หากเลิกจ้างลูกจ้างใน 5 อัตรา คือ ทำงาน 120 วัน ไม่เกิน 1 ปี ได้รับค่าชดเชย 30 เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำ ทำงาน 1 ปี ไม่เกิน 3 ปี ได้ค่าชดเชย 90 เท่า ทำงาน 3 ปี ไม่เกิน 6 ปี ได้ค่าชดเชย 180 เท่า ทำงาน 6 ปี ไม่เกิน 10 ปี ได้ค่าชดเชย 220 เท่า และทำงาน 10 ปีขึ้นไป ได้ค่าชดเชย 300 เท่า โดยทุกอัตราจะต้องคูณกับค่าจ้างขั้นต่ำรายวันของแต่ละพื้นที่
สำหรับอัตราค่าชดเชยที่นายจ้างต้องจ่ายตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หากเลิกจ้างลูกจ้างใน 5 อัตรา คือ ทำงาน 120 วัน ไม่เกิน 1 ปี ได้รับค่าชดเชย 30 เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำ ทำงาน 1 ปี ไม่เกิน 3 ปี ได้ค่าชดเชย 90 เท่า ทำงาน 3 ปี ไม่เกิน 6 ปี ได้ค่าชดเชย 180 เท่า ทำงาน 6 ปี ไม่เกิน 10 ปี ได้ค่าชดเชย 220 เท่า และทำงาน 10 ปีขึ้นไป ได้ค่าชดเชย 300 เท่า โดยทุกอัตราจะต้องคูณกับค่าจ้างขั้นต่ำรายวันของแต่ละพื้นที่
