วันนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินยังวัดโพสพผลเจริญ ใน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทรงเยี่ยมและถวายถุงยังชีพแด่พระภิกษุ สามเณร พร้อมทั้งพระราชทานถุงยังชีพแก่ราษฎร
ทั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ก็ทรงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยด้วย เนื่องจากพระตำหนักที่ประทับถูกน้ำท่วม ทำให้ขาดไฟฟ้าและน้ำประปา รวมถึงเส้นทางการเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจก็เป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องประทับทั้งรถยีเอ็มซี และเรือ ก่อนจะทรงใช้เฮลิคอปเตอร์ในช่วงหลัง ซึ่งน้ำลดระดับลงบ้างแล้ว เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
สำหรับศูนย์อพยพผู้ประสบภัยวัดโพสพผลเจริญ มีผู้ได้รับความเดือดร้อนรวม 591 คน แยกเป็นเด็ก 141 คน ผู้สูงอายุ 62 คน ผู้ใหญ่ 378 คน คนพิการ 6 คน ผู้ป่วย 3 คน รวมถึงผู้ที่ตั้งครรภ์ 8 เดือน 1 คน และเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา น้ำมีระดับสูงขึ้นมากจึงต้องอพยพประชาชนไปอาศัยที่ศูนย์นิวเคลียร์แห่งชาติ จ.นครนายก ศูนย์สถาบันการพลศึกษา จ.ชลบุรี จนเหลือผู้อพยพที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ 130 คน ซึ่งสมัครใจอยู่ต่อ เนื่องจากห่วงทรัพย์สิน และมีสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแล ซึ่งทางเทศบาลยังคงจัดส่งอาหารสดให้อย่างต่อเนื่อง 2 วันต่อครั้ง เนื่องจากการเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก
จากนั้น ทรงเยี่ยมและทอดพระเนตรการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน พร้อมทั้งหน่วยแพทย์ของเหล่าทัพที่ให้การตรวจรักษาผู้อพยพที่เจ็บป่วย และทอดพระเนตรการให้บริการตัดผมแก่ผู้พักพิง
การเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงเยี่ยมประชาชนในศูนย์อพยพวัดโพสพผลเจริญ ครั้งนี้ สร้างความรู้สึกปลาบปลื้มแก่ผู้ประสบอุทกภัยเป็นอย่างยิ่ง โดยพื้นที่เขตเทศบาลเมืองคูคต อ.ลำลูกกา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันครอบคลุมทุกพื้นที่ มีระดับความสูง 2 เมตร ประชาชน 21,295 หลังคาเรือน กว่า 40,000 คน ได้รับผลกระทบ ซึ่งในวันนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชบริพารในพระองค์ ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ สามเณร พร้อมทั้งพระราชทานอาหารแก่ราษฎรที่พักพิงอยู่ในศูนย์ฯ แห่งนี้ ด้วยทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยเช่นเดียวกัน โดยได้พระราชทานคติแก่ประชาชนว่า "โดนด้วยกัน จมด้วยกัน อยู่ด้วยกัน ช่วยและปลอบใจซึ่งกันและกัน ไปรอดด้วยกัน ร่วมพัฒนาฟื้นฟูด้วยกัน"
ทั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ก็ทรงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยด้วย เนื่องจากพระตำหนักที่ประทับถูกน้ำท่วม ทำให้ขาดไฟฟ้าและน้ำประปา รวมถึงเส้นทางการเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจก็เป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องประทับทั้งรถยีเอ็มซี และเรือ ก่อนจะทรงใช้เฮลิคอปเตอร์ในช่วงหลัง ซึ่งน้ำลดระดับลงบ้างแล้ว เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
สำหรับศูนย์อพยพผู้ประสบภัยวัดโพสพผลเจริญ มีผู้ได้รับความเดือดร้อนรวม 591 คน แยกเป็นเด็ก 141 คน ผู้สูงอายุ 62 คน ผู้ใหญ่ 378 คน คนพิการ 6 คน ผู้ป่วย 3 คน รวมถึงผู้ที่ตั้งครรภ์ 8 เดือน 1 คน และเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา น้ำมีระดับสูงขึ้นมากจึงต้องอพยพประชาชนไปอาศัยที่ศูนย์นิวเคลียร์แห่งชาติ จ.นครนายก ศูนย์สถาบันการพลศึกษา จ.ชลบุรี จนเหลือผู้อพยพที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ 130 คน ซึ่งสมัครใจอยู่ต่อ เนื่องจากห่วงทรัพย์สิน และมีสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแล ซึ่งทางเทศบาลยังคงจัดส่งอาหารสดให้อย่างต่อเนื่อง 2 วันต่อครั้ง เนื่องจากการเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก
จากนั้น ทรงเยี่ยมและทอดพระเนตรการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน พร้อมทั้งหน่วยแพทย์ของเหล่าทัพที่ให้การตรวจรักษาผู้อพยพที่เจ็บป่วย และทอดพระเนตรการให้บริการตัดผมแก่ผู้พักพิง
การเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงเยี่ยมประชาชนในศูนย์อพยพวัดโพสพผลเจริญ ครั้งนี้ สร้างความรู้สึกปลาบปลื้มแก่ผู้ประสบอุทกภัยเป็นอย่างยิ่ง โดยพื้นที่เขตเทศบาลเมืองคูคต อ.ลำลูกกา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันครอบคลุมทุกพื้นที่ มีระดับความสูง 2 เมตร ประชาชน 21,295 หลังคาเรือน กว่า 40,000 คน ได้รับผลกระทบ ซึ่งในวันนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชบริพารในพระองค์ ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ สามเณร พร้อมทั้งพระราชทานอาหารแก่ราษฎรที่พักพิงอยู่ในศูนย์ฯ แห่งนี้ ด้วยทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยเช่นเดียวกัน โดยได้พระราชทานคติแก่ประชาชนว่า "โดนด้วยกัน จมด้วยกัน อยู่ด้วยกัน ช่วยและปลอบใจซึ่งกันและกัน ไปรอดด้วยกัน ร่วมพัฒนาฟื้นฟูด้วยกัน"
