ASTV ผู้จัดการออนไลน์- CPFช่วยพนักงานจากภัยน้ำท่วมแล้ว3,000 คน พร้อมเดินหน้า“โรงครัวพระราชทาน” ช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ เป็นผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารที่มีฟาร์ม โรงงาน และฟาร์มของเกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพกว่า 6,000 แห่งกระจายอยู่ในทุกภูมิภาค แต่ไม่มีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบจากวิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้น ในทางตรงข้ามซีพีเอฟกลับทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนและพนักงานที่ต้องประสบภาวะวิกฤตอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง
ทั้งนี้ ซีพีเอฟเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับพนักงาน ลูกค้าและประชาชน โดยในฐานะบริษัทอาหาร ซีพีเอฟได้เร่งทำการผลิตอาหารอย่างเต็มกำลังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและบรรเทาทุกข์ประชาชนไม่ให้เดือดร้อนกับภาวะขาดแคลนอาหารสำหรับบริโภค ขณะเดียวกันมีพนักงานบางส่วนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ด้วย บริษัทจึงเร่งให้ความช่วยเหลือพนักงานควบคู่ไปกับการช่วยเหลือประชาชน
ปัจจุบันได้ช่วยเหลือพนักงานไปแล้วกว่า 3,000 คน ตั้งแต่การจัดกระสอบทรายจำนวนมากกว่า 120,000 กระสอบ ให้กับพนักงานในพื้นที่เสี่ยงจำนวน 2,232 ราย การจัดที่พักชั่วคราวบริเวณใกล้ที่ทำงานให้แก่พนักงานที่ได้รับความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย จำนวนกว่า 200 ราย มีการสำรองที่จอดรถสำหรับพนักงานไปแล้วกว่า 300 คัน ตลอดจนนำเรือเข้าช่วยเหลือเคลื่อนย้ายพนักงานในกรณีฉุกเฉินแล้ว จำนวน 95 ราย โดยมี Call Center สำหรับพนักงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับการขอความช่วยเหลือจากพนักงานด้านต่างๆให้มากที่สุด
พร้อมกันนี้ บริษัทได้ทำการจ่ายโบนัสล่วงหน้าให้กับพนักงานทุกคนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการใช้เงินในยามจำเป็นของพนักงานได้เป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มเติมสวัสดิการให้กับพนักงานที่ได้รับความเดือดร้อน ในด้านที่อยู่อาศัยและต้องการอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัยเป็นการชั่วคราว ให้สามารถเบิกจ่ายค่าที่พักได้ตามจำนวนเงินตาม ที่จ่ายจริงและอยู่ในวงเงินที่เหมาะสม
“การแสดงน้ำใจต่อเพื่อนพนักงานนั้น เท่ากับเป็นการดูแลคนในครอบครัว เพราะพนักงานคือหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจของซีพีเอฟ” นายอดิเรกกล่าว
สำหรับในด้านความช่วยเหลือประชาชน ท่านประธานธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้มีดำริให้จัดโครงการ“กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์เคียงข้างคนไทยช่วยภัยน้ำท่วม”นับตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย เป็นต้นมา
เริ่มตั้งแต่การสนับสนุนเงินช่วยเหลือผ่านนายกรัฐมนตรี จำนวน 30 ล้านบาท การมอบผลิตภัณฑ์และถุงยังชีพจำนวน 50,000 ชุด มูลค่า 20 ล้านบาท ผ่านองค์กรต่างๆ นอกจากนี้ยังมีพนักงานจิตอาสานับร้อยนับพันชีวิตของ ซีพีเอฟที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์” ได้จัดพระราชทานอาหารให้กับผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 14 จุดจังหวัด ครอบคลุมทุกพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อทำการปรุงอาหารสดทุกวันๆละ 3 มื้อ จำนวน 15,000-20,000 กล่องต่อจุดต่อวัน แจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกๆพื้นที่
ทั้งนี้ ได้ปรุงอาหารแจกจ่ายแก่ประชาชนผู้ประสบภัยไปแล้วกว่า 2,240,000 กล่อง คิดเป็นมูลค่า 70 ล้านบาทโดยจะดำเนินโครงการต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ก็ให้การช่วยเหลือด้วยอีกกว่า 70 ล้านบาท รวมมูลค่าที่กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้วทั้งสิ้นร่วม 200 ล้านบาท
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ เป็นผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารที่มีฟาร์ม โรงงาน และฟาร์มของเกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพกว่า 6,000 แห่งกระจายอยู่ในทุกภูมิภาค แต่ไม่มีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบจากวิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้น ในทางตรงข้ามซีพีเอฟกลับทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนและพนักงานที่ต้องประสบภาวะวิกฤตอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง
ทั้งนี้ ซีพีเอฟเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับพนักงาน ลูกค้าและประชาชน โดยในฐานะบริษัทอาหาร ซีพีเอฟได้เร่งทำการผลิตอาหารอย่างเต็มกำลังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและบรรเทาทุกข์ประชาชนไม่ให้เดือดร้อนกับภาวะขาดแคลนอาหารสำหรับบริโภค ขณะเดียวกันมีพนักงานบางส่วนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ด้วย บริษัทจึงเร่งให้ความช่วยเหลือพนักงานควบคู่ไปกับการช่วยเหลือประชาชน
ปัจจุบันได้ช่วยเหลือพนักงานไปแล้วกว่า 3,000 คน ตั้งแต่การจัดกระสอบทรายจำนวนมากกว่า 120,000 กระสอบ ให้กับพนักงานในพื้นที่เสี่ยงจำนวน 2,232 ราย การจัดที่พักชั่วคราวบริเวณใกล้ที่ทำงานให้แก่พนักงานที่ได้รับความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย จำนวนกว่า 200 ราย มีการสำรองที่จอดรถสำหรับพนักงานไปแล้วกว่า 300 คัน ตลอดจนนำเรือเข้าช่วยเหลือเคลื่อนย้ายพนักงานในกรณีฉุกเฉินแล้ว จำนวน 95 ราย โดยมี Call Center สำหรับพนักงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับการขอความช่วยเหลือจากพนักงานด้านต่างๆให้มากที่สุด
พร้อมกันนี้ บริษัทได้ทำการจ่ายโบนัสล่วงหน้าให้กับพนักงานทุกคนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการใช้เงินในยามจำเป็นของพนักงานได้เป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มเติมสวัสดิการให้กับพนักงานที่ได้รับความเดือดร้อน ในด้านที่อยู่อาศัยและต้องการอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัยเป็นการชั่วคราว ให้สามารถเบิกจ่ายค่าที่พักได้ตามจำนวนเงินตาม ที่จ่ายจริงและอยู่ในวงเงินที่เหมาะสม
“การแสดงน้ำใจต่อเพื่อนพนักงานนั้น เท่ากับเป็นการดูแลคนในครอบครัว เพราะพนักงานคือหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจของซีพีเอฟ” นายอดิเรกกล่าว
สำหรับในด้านความช่วยเหลือประชาชน ท่านประธานธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้มีดำริให้จัดโครงการ“กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์เคียงข้างคนไทยช่วยภัยน้ำท่วม”นับตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย เป็นต้นมา
เริ่มตั้งแต่การสนับสนุนเงินช่วยเหลือผ่านนายกรัฐมนตรี จำนวน 30 ล้านบาท การมอบผลิตภัณฑ์และถุงยังชีพจำนวน 50,000 ชุด มูลค่า 20 ล้านบาท ผ่านองค์กรต่างๆ นอกจากนี้ยังมีพนักงานจิตอาสานับร้อยนับพันชีวิตของ ซีพีเอฟที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์” ได้จัดพระราชทานอาหารให้กับผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 14 จุดจังหวัด ครอบคลุมทุกพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อทำการปรุงอาหารสดทุกวันๆละ 3 มื้อ จำนวน 15,000-20,000 กล่องต่อจุดต่อวัน แจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกๆพื้นที่
ทั้งนี้ ได้ปรุงอาหารแจกจ่ายแก่ประชาชนผู้ประสบภัยไปแล้วกว่า 2,240,000 กล่อง คิดเป็นมูลค่า 70 ล้านบาทโดยจะดำเนินโครงการต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ก็ให้การช่วยเหลือด้วยอีกกว่า 70 ล้านบาท รวมมูลค่าที่กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้วทั้งสิ้นร่วม 200 ล้านบาท