ศาลอาญารัชดา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสันติ เกรียงไกรสุข อายุ 71 ปี อดีตผู้ว่าราชการ จ.หนองคาย เป็นจำเลยในความผิดฐานเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการจงใจ หรือได้จูงใจเจ้าพนักงาน หรือวิธีทุจริต
จากกรณีระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 2541 จำเลยร่วมกับพวก หลอกลวงนายปรีชาชาติ เจริญวิบูลย์ ว่าจำเลยกับพวกรู้จักและมีความสนิทชิดชอบกับ คุณหญิงฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ ภริยา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในขณะนั้นว่า สามารถช่วยเหลือนายปรีชาชาติ ตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนทางหลวงชนบท ให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นผู้อำนวยการศูนย์เร่งรัดพัฒนาชนบทได้ พร้อมกับเรียกรับเงิน รวม 2 ล้านบาท
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2545 จำคุก 2 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็น จำคุก 3 ปี โดยศาลฎีกาเห็นว่า พยานโจทก์ยังไม่สามารถรับฟังได้ โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
จากกรณีระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 2541 จำเลยร่วมกับพวก หลอกลวงนายปรีชาชาติ เจริญวิบูลย์ ว่าจำเลยกับพวกรู้จักและมีความสนิทชิดชอบกับ คุณหญิงฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ ภริยา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในขณะนั้นว่า สามารถช่วยเหลือนายปรีชาชาติ ตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนทางหลวงชนบท ให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นผู้อำนวยการศูนย์เร่งรัดพัฒนาชนบทได้ พร้อมกับเรียกรับเงิน รวม 2 ล้านบาท
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2545 จำคุก 2 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็น จำคุก 3 ปี โดยศาลฎีกาเห็นว่า พยานโจทก์ยังไม่สามารถรับฟังได้ โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง