พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ว่า ตนดำเนินการตามร่างเดิมในสมัย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจำนวน 20 คน เพื่อร่าง พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ ในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระชนม์มายุครบ 84 พรรษา พร้อมยืนยันว่า สาระสำคัญยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิม ตามที่รัฐบาลชุดที่แล้ว วางไว้ ไม่มีการตัดบัญชีแนบท้ายออก
ทั้งนี้ ร่างพระราชกฤษฎีการพระราชทานอภัยโทษ มีสาระสำคัญ คือ ขอพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัวแก่นักโทษเด็ดขาด ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป โดยไม่มีเงื่อนไข ขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นักโทษเด็ดขาด อายุระหว่าง 60-69 ปี โดยให้ยกเลิกหรือผ่อนคลายเงื่อนไข เท่าที่จะทำได้ ยกเว้นนักโทษคดีประหารชีวิต และเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด
ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการประชุมลับนั้น ยืนยันว่า การพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ทุกฉบับที่ผ่านมา มีการประชุมลับเช่นกัน ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ไม่เอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งผู้ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษต้องจำคุกก่อน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ประชา ยังกล่าวว่า ตนพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีการจัดซื้อถุงยังชีพ ส่วนจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับมติของสภา
ทั้งนี้ ร่างพระราชกฤษฎีการพระราชทานอภัยโทษ มีสาระสำคัญ คือ ขอพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัวแก่นักโทษเด็ดขาด ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป โดยไม่มีเงื่อนไข ขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นักโทษเด็ดขาด อายุระหว่าง 60-69 ปี โดยให้ยกเลิกหรือผ่อนคลายเงื่อนไข เท่าที่จะทำได้ ยกเว้นนักโทษคดีประหารชีวิต และเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด
ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการประชุมลับนั้น ยืนยันว่า การพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ทุกฉบับที่ผ่านมา มีการประชุมลับเช่นกัน ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ไม่เอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งผู้ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษต้องจำคุกก่อน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ประชา ยังกล่าวว่า ตนพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีการจัดซื้อถุงยังชีพ ส่วนจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับมติของสภา
