ผู้นำเอเชีย-แปซิฟิกประกาศส่งเสริมการเติบโตและลดกำแพงการค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโลก ตลอดจนปกป้องตัวเองจากผลพวงวิกฤตหนี้ยูโรโซน พร้อมกันนี้ยังตกลงสนับสนุนอุตสาหกรรมสีเขียว ด้วยการตั้งเป้าลดภาษีสินค้าและบริการด้านสิ่งแวดล้อมภายในปี 2015
แถลงการณ์ปิดประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) เมื่อวันอาทิตย์ (13) ให้ความสำคัญอย่างชัดเจนกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน ซึ่งถูกระบุว่าเป็นความท้าทายที่จะเป็นความเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในขาลง
“หากปราศจากหนทางแก้ไขวิกฤตยูโรโซน เศรษฐกิจโลกจะเผชิญแนวโน้มขาลงจากการพังทลายของความเชื่อมั่น การเติบโตที่อ่อนแอและการจ้างงานที่ลดต่ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ และเราทั้งหมดมีส่วนร่วมในการคลี่คลายวิกฤตนี้” คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในซัมมิตเอเปกคราวนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่นครโฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุม ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งพยายามย้ำความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ เพื่อคานอิทธิพลของจีนที่ขยายครอบคลุมภูมิภาคแปซิฟิกในขณะนี้ ได้เรียกร้องพันธะสัญญาในการขยายโอกาสทางการค้าเพื่อใช้เป็นยาถอนพิษวิกฤตยุโรป
แถลงการณ์สุดท้ายของที่ประชุมระบุว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกไร้ความแน่นอน โดยที่การเติบโตและการจ้างงานอ่อนแอลงไม่เฉพาะจากวิกฤตยูโรโซนเท่านั้น แต่ยังมีสาเหตุจากภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น
แถลงการณ์ปิดประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) เมื่อวันอาทิตย์ (13) ให้ความสำคัญอย่างชัดเจนกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน ซึ่งถูกระบุว่าเป็นความท้าทายที่จะเป็นความเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในขาลง
“หากปราศจากหนทางแก้ไขวิกฤตยูโรโซน เศรษฐกิจโลกจะเผชิญแนวโน้มขาลงจากการพังทลายของความเชื่อมั่น การเติบโตที่อ่อนแอและการจ้างงานที่ลดต่ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ และเราทั้งหมดมีส่วนร่วมในการคลี่คลายวิกฤตนี้” คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในซัมมิตเอเปกคราวนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่นครโฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุม ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งพยายามย้ำความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ เพื่อคานอิทธิพลของจีนที่ขยายครอบคลุมภูมิภาคแปซิฟิกในขณะนี้ ได้เรียกร้องพันธะสัญญาในการขยายโอกาสทางการค้าเพื่อใช้เป็นยาถอนพิษวิกฤตยุโรป
แถลงการณ์สุดท้ายของที่ประชุมระบุว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกไร้ความแน่นอน โดยที่การเติบโตและการจ้างงานอ่อนแอลงไม่เฉพาะจากวิกฤตยูโรโซนเท่านั้น แต่ยังมีสาเหตุจากภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น