นายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลและเอกชนญี่ปุ่นพร้อมช่วยเหลือและให้คำแนะนำต่อรัฐบาลไทย ในการทำแผนระยะยาวป้องกันน้ำท่วม หลังจากวานนี้รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการ 2 ชุดขึ้นมาดูแล ซึ่งจะส่งผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศหรือ ไจกา มาแนะนำ ทั้งการเยียวยา การใช้ประโยชน์ของระบบแก้มลิง รวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างขนาดใหญ่ในอนาคต โดยการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวจะต้องสร้างแผนงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งขณะนี้นักลงทุนญี่ปุ่นยังไม่มีแผนการย้ายฐานจากไทย แต่ต้องการเห็นแผนป้องกันน้ำท่วมที่ถาวร นอกจากจะป้องกันนิคมแล้ว จะต้องควบคุมถึงการดูแลป้องกันพนักงานและชุมชนใกล้เคียงอีกด้วย
สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นรัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งเงินช่วยเหลือให้เปล่าระยะแรก 22 ล้านบาท ระยะที่ 2 วงเงิน 1,000 ล้านเยนหรือราว 300 ล้านบาท และได้ส่งเครื่องปั๊มน้ำมาช่วยด้วย โดยชาวญี่ปุ่นทั้งรัฐและเอกชนพร้อมช่วยเหลือประเทศไทยเพิ่มเติม ทั้งเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และตอบแทนคนไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือช่วงที่ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิ
นายกิมิโอะ ทาเคยะ ผู้เชี่ยวชาญไจกา ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษว่า กรอบการป้องกันดูแลน้ำท่วมระยะยาวของรัฐบาลไทยต้องมีการลงทุนโครงสร้างขนาดใหญ่ในการป้องกัน ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ชุมชน รัฐบาลท้องถิ่นร่วมกับทางรัฐบาลกลาง ในการสร้างความเข้าใจและป้องกันต่อไปพร้อมกัน เพราะต้องใช้งบลงทุนมหาศาล ต้องอาศัยความเสียสละจากประชาชน เพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทยมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และมีความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น แต่การพัฒนาป้องกันน้ำท่วมกลับดำเนินการไม่ทันกับเศรษฐกิจที่ขยายตัว
ทั้งนี้ นายกิมิโอะกล่าวว่า จะนำบทเรียนของญี่ปุ่นในอดีตมาแนะนำให้รัฐบาลไทย เพราะในอดีตชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากน้ำท่วมนับหมื่นคนต่อปี
สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นรัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งเงินช่วยเหลือให้เปล่าระยะแรก 22 ล้านบาท ระยะที่ 2 วงเงิน 1,000 ล้านเยนหรือราว 300 ล้านบาท และได้ส่งเครื่องปั๊มน้ำมาช่วยด้วย โดยชาวญี่ปุ่นทั้งรัฐและเอกชนพร้อมช่วยเหลือประเทศไทยเพิ่มเติม ทั้งเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และตอบแทนคนไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือช่วงที่ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิ
นายกิมิโอะ ทาเคยะ ผู้เชี่ยวชาญไจกา ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษว่า กรอบการป้องกันดูแลน้ำท่วมระยะยาวของรัฐบาลไทยต้องมีการลงทุนโครงสร้างขนาดใหญ่ในการป้องกัน ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ชุมชน รัฐบาลท้องถิ่นร่วมกับทางรัฐบาลกลาง ในการสร้างความเข้าใจและป้องกันต่อไปพร้อมกัน เพราะต้องใช้งบลงทุนมหาศาล ต้องอาศัยความเสียสละจากประชาชน เพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทยมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และมีความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น แต่การพัฒนาป้องกันน้ำท่วมกลับดำเนินการไม่ทันกับเศรษฐกิจที่ขยายตัว
ทั้งนี้ นายกิมิโอะกล่าวว่า จะนำบทเรียนของญี่ปุ่นในอดีตมาแนะนำให้รัฐบาลไทย เพราะในอดีตชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากน้ำท่วมนับหมื่นคนต่อปี
