คาดการตัดสินใจช็อกโลกของผู้นำกรีซ จะทำให้การลงทุนทั่วโลกหยุดนิ่งอย่างน้อย 10 สัปดาห์ เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกกลับสู่ภาวะถดถอยภายในฤดูหนาวนี้
สำหรับนักลงทุนทั่วโลกจำนวนมาก คงยากที่จะดูเบาผลกระทบจากการตัดสินใจสุดเซอร์ไพรส์ในคืนฮัลโลวีนของนายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ในการเปิดโอกาสให้ชาวกรีกร่วมตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อตกลงช่วยเหลือล่าสุดจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือไม่
ก่อนหน้านี้ พวกผู้จัดการด้านการเงินเริ่มหารือแนวโน้มที่วิกฤตยูโรโซนอาจจะมีทางออก แต่ตอนนี้ความหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวส่งท้ายปีหรือตลาดโลกฟื้นเสถียรภาพกลับริบหรี่ลง
หนึ่งในประเด็นสำคัญสำหรับเศรษฐกิจโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคือ ข้อมูลความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและครัวเรือนในประเทศต่างๆ ที่ต่างติดลบนั้น เป็นการมองแง่ร้ายเกินไปหรือไม่ ตลอดจนมีการให้ความสำคัญกับตลาดที่ผันผวนมากกว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แท้จริงซึ่งเริ่มดีขึ้นหรือเปล่า โดยเฉพาะเศรษฐกิจแดนอินทรี
ตลาดการเงินที่กลับมามีเสถียรภาพช่วงสั้นๆ เมื่อปลายเดือนที่แล้วบ่งชี้ว่า นโยบายการแก้ปัญหายูโรอย่างยั่งยืน กำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น
ทว่า เมื่อการประกาศแผนการลงประชามติของกรีซ ก็กระตุ้นให้แบงก์และกองทุนภาครัฐกลับมากังวลอีกครั้ง และดึงยุโรปกลับสู่ความไร้ความแน่นอนด้านนโยบายในระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน กิจกรรมเศรษฐกิจที่แท้จริงอาจกลับเสื่อมถอยลงใหม่
ที่ร้ายคือจังหวะเวลา โดยที่เมื่อวันจันทร์ (31 พ.ย.) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) เพิ่งออกมาเตือนว่าแนวโน้มอัตราว่างงานทั่วโลกอาจทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง
สำหรับนักลงทุนทั่วโลกจำนวนมาก คงยากที่จะดูเบาผลกระทบจากการตัดสินใจสุดเซอร์ไพรส์ในคืนฮัลโลวีนของนายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ในการเปิดโอกาสให้ชาวกรีกร่วมตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อตกลงช่วยเหลือล่าสุดจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือไม่
ก่อนหน้านี้ พวกผู้จัดการด้านการเงินเริ่มหารือแนวโน้มที่วิกฤตยูโรโซนอาจจะมีทางออก แต่ตอนนี้ความหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวส่งท้ายปีหรือตลาดโลกฟื้นเสถียรภาพกลับริบหรี่ลง
หนึ่งในประเด็นสำคัญสำหรับเศรษฐกิจโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคือ ข้อมูลความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและครัวเรือนในประเทศต่างๆ ที่ต่างติดลบนั้น เป็นการมองแง่ร้ายเกินไปหรือไม่ ตลอดจนมีการให้ความสำคัญกับตลาดที่ผันผวนมากกว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แท้จริงซึ่งเริ่มดีขึ้นหรือเปล่า โดยเฉพาะเศรษฐกิจแดนอินทรี
ตลาดการเงินที่กลับมามีเสถียรภาพช่วงสั้นๆ เมื่อปลายเดือนที่แล้วบ่งชี้ว่า นโยบายการแก้ปัญหายูโรอย่างยั่งยืน กำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น
ทว่า เมื่อการประกาศแผนการลงประชามติของกรีซ ก็กระตุ้นให้แบงก์และกองทุนภาครัฐกลับมากังวลอีกครั้ง และดึงยุโรปกลับสู่ความไร้ความแน่นอนด้านนโยบายในระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน กิจกรรมเศรษฐกิจที่แท้จริงอาจกลับเสื่อมถอยลงใหม่
ที่ร้ายคือจังหวะเวลา โดยที่เมื่อวันจันทร์ (31 พ.ย.) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) เพิ่งออกมาเตือนว่าแนวโน้มอัตราว่างงานทั่วโลกอาจทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง