เอเจนซี/เอเอฟพี - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และราคาน้ำมันโลกพุ่งแรงเมื่อวันพฤหัสบดี(27) หลังอียูผ่านข้อตกลงฝ่าวิกฤตยูโรโซน ด้วยการขยายกองทุนฟื้นฟู อัดฉีดเงินก้อนใหม่ให้กรีซ และผลักดันให้บรรดาแบงก์ร่วมรับภาระมากขึ้น
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 340.19 จุด (2.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,209.23 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 87.96 จุด (3.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,738.63 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 42.57 จุด (3.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,284.57 จุด
หลังจากหารือกันมาหลายนัด รวมทั้งประชุมสุดยอดสองรอบ (ในวันอาทิตย์ที่ 22 และพุธที่ 26 ตุลาคม) ที่ใช้เวลาทั้งสิ้นร่วม 10 ชั่วโมง และท่ามกลางการรอคอยด้วยความกังวลของตลาดและผู้นำทั่วโลก เฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสหภาพยุโรป (อียู) ก็ออกมาประกาศในวันพุธว่าที่ประชุมได้ตัดสินใจเรื่องสำคัญลุล่วงแล้วโดยที่ประชุมบรรลุข้อตกลงขยายกองทุนฟื้นฟูเป็น 1 ล้านล้านยูโรสำหรับภูมิภาคและธนาคารต่างๆที่ได้รับความเสียหายจากการปล่อยกู้แก่กรีซ
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯทะยานอย่างคึกคัก เช่นเดียวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งมีการประมาณการณ์อย่างเป็นทางการครั้งแรกว่าเศรษฐกิจแดนลุงแซมในช่วงไตรมาส 3 จะเติบโตราวร้อยละ 2.5 สยบความกังวลต่อภาวะถดถอยซ้ำซ้อน
ทั้งนี้ข่าวสารและข้อมูลอันสดใสข้างต้นส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกวานนี้ (27) ปิดบวกอย่างแรง จากความเชื่อมั่นต่ออุปสงค์อันแข็งแกร่ง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 3.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 3.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล