นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ตลท.เชื่อสามารถรับมือได้ หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่คลองเตย ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารตลาดหลักทรัพย์ โดยมีการทำพนังกั้นน้ำเหล็กกล้าความสูง 1.50 เมตร ส่วนศูนย์ตลาดหลักทรัพย์ที่ นอร์ธ ปาร์ค ที่วิภาวดีรังสิต แม้จะมีกระแสน้ำไหลเข้าพื้นที่นอร์ธ ปาร์ค แต่เนื่องจากอาคารตั้งอยู่ในที่สูง และมีพนังกั้นน้ำสูง 2 เมตร ยังสามารถรับสถานการณ์ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท เมื่อวานนี้ ตลท.ได้มีการย้ายศูนย์ปฏิบัติการและเจ้าหน้าที่บางส่วนไปที่ศูนย์สำรองพัทยา เพื่อทดลองระบบการซื้อขายตลอดทั้งวัน ซึ่งดำเนินการได้ตามปกติ เป็นการเตรียมพร้อมไว้รองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และได้ย้ายศูนย์ปฏิบัติการกลับที่อาคารตลาดหลักทรัพย์ คลองเตย ตามปกติแล้ว พร้อมทั้งมั่นใจว่า จะสามารถเปิดการซื้อขายได้ตามปกติ แม้จะมีสถานการณ์น้ำท่วม เพราะบริษัทสมาชิกมีการเตรียมระบบอย่างเต็มที่ มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระบบการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากระบบการส่งคำสั่งซื้อขายของสมาชิกจำนวน 1 ใน 3 เกิดขัดข้อง ตลาดหลักทรัพย์จึงจะหยุดหารซื้อขาย
นายจรัมพร กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีบริษัทจดทะเบียน 30 แห่ง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างมีนัยสำคัญ คือน้ำท่วมโรงงานจนปิดดำเนินการ และกระทบต่อรายได้ของบริษัทร้อยละ 50 แต่บริษัทจดทะเบียนทั้ง 30 แห่ง มีขนาดไม่ใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 1 ของมูลค่าตลาดรวม หรือมาร์เก็ตแคป ผลกระทบจึงยังมีไม่มากนัก แต่ต้องรอดูกระบวนการฟื้นฟูว่าจะเป็นอย่างไร จึงจะประเมินผลเสียหายได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท เมื่อวานนี้ ตลท.ได้มีการย้ายศูนย์ปฏิบัติการและเจ้าหน้าที่บางส่วนไปที่ศูนย์สำรองพัทยา เพื่อทดลองระบบการซื้อขายตลอดทั้งวัน ซึ่งดำเนินการได้ตามปกติ เป็นการเตรียมพร้อมไว้รองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และได้ย้ายศูนย์ปฏิบัติการกลับที่อาคารตลาดหลักทรัพย์ คลองเตย ตามปกติแล้ว พร้อมทั้งมั่นใจว่า จะสามารถเปิดการซื้อขายได้ตามปกติ แม้จะมีสถานการณ์น้ำท่วม เพราะบริษัทสมาชิกมีการเตรียมระบบอย่างเต็มที่ มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระบบการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากระบบการส่งคำสั่งซื้อขายของสมาชิกจำนวน 1 ใน 3 เกิดขัดข้อง ตลาดหลักทรัพย์จึงจะหยุดหารซื้อขาย
นายจรัมพร กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีบริษัทจดทะเบียน 30 แห่ง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างมีนัยสำคัญ คือน้ำท่วมโรงงานจนปิดดำเนินการ และกระทบต่อรายได้ของบริษัทร้อยละ 50 แต่บริษัทจดทะเบียนทั้ง 30 แห่ง มีขนาดไม่ใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 1 ของมูลค่าตลาดรวม หรือมาร์เก็ตแคป ผลกระทบจึงยังมีไม่มากนัก แต่ต้องรอดูกระบวนการฟื้นฟูว่าจะเป็นอย่างไร จึงจะประเมินผลเสียหายได้ทั้งหมด
