น้ำท่วมภาคเหนือส่งผลฟาร์มไก่ไข่-หมูเสียหายหนัก

ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่เลี้ยงไก่ไข่ รวมถึงสุกร ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก นายณรงค์ เจียมใจบรรจง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้ส่งออกไข่ไก่ ระบุว่า ขณะนี้ผลผลิตเสียหายค่อยข้างมาก ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตที่จะออกสู่ตลาด รวมถึงราคาที่คาดว่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ผลผลิตไก่เนื้อยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เลี้ยงในพื้นที่ดอน
นายเอนก กิตติคุณาดุลย์ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ไขธนะชัย ซึ่งอยู่บนถนนสายเอเชีย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ฟาร์มของเขาได้ถูกน้ำท่วมมาแล้ว 10 วัน สร้างความเสียหายถึงร้อยละ 90 หรือประมาณ 20 ล้านบาท ทั้งนี้พื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยามีฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ขนาดใหญ่ 5-6 ฟาร์ม ประสบปัญหาน้ำท่วมโรงเรือนไก่ตายประมาณ 1.5 ล้านตัว
ขณะที่ผลผลิตสุกรใน จ.พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ขณะนี้ยังประเมินความเสียหายไม่ได้ ซึ่งนายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แนะให้เจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เร่งขายสุกรที่ได้น้ำหนักที่ 80-90 กิโลกรัม และควรย้ายแม่พันธุ์หมูไว้ในที่ปลอดภัย เพราะหากหมูจมอยู่ในน้ำนาน 3-4 วันก็จะทำให้แท้ง
ทั้งนี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ระบุว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยน้ำท่วมจะแจกหมูเป็นและเนื้อหมูให้กับศูนย์ประสบภัยน้ำท่วม โดยสามารถแจ้งได้ที่เบอร์ 081-626-1971