บรรยากาศที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณชั้น 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งเริ่มเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการเมื่อเช้านี้ ภายในศูนย์แบ่งเป็น 2 ส่วนงานสำคัญ คือห้องบัญชาการเป็นส่วนของการสั่งการมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานศูนย์ อีกส่วนคือห้องปฏิบัติการเป็นส่วนของห้องคอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 1111 กด 5 จำนวน 254 คู่สาย รองรับผู้ประสบอุทกภัย โทรศัพท์เข้ามาแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือ ซึ่งเพียงไม่ถึงชั่วโมงที่เริ่มเปิดศูนย์ มีผู้ประสบภัยโทรศัพท์เข้ากว่า 2,000 สาย และถึงตอนนี้มีมากเกือบ 30,000 สายแล้ว ส่วนมากขอความช่วยเหลือเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และเต็นท์ที่พักอาศัย แต่ว่าปัญหาตอนนี้คือ การส่งความช่วยเหลือค่อนข้างเป็นไปอย่างยากลำบาก
สำหรับงานแรกของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้สั่งให้รีบดำเนินการเมื่อเช้านี้คือ การเร่งให้รถแบคโฮของทหารช่างจำนวน 50 คัน เข้าไปยังพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำคันกั้นน้ำแนวคันคลองชลประทาน ด้านเหนือนิคม ระยะทาง 12 กิโลเมตร ให้สูงขึ้นเป็น 7 เมตร จากเดิมที่ทำไว้ความสูงเพียง 4 เมตร เพื่อป้องกันมวลน้ำปริมาณมหาศาล ที่จะไหลลงมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยจะใช้เวลาทำ 2 วัน และหากดำเนินการแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมโรจนะได้ ส่วนแนวกั้นน้ำด้านทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตก ทางนิคมจะเป็นผู้ดำเนินการเอง และช่วงบ่ายวันนี้จะส่งตำรวจจากกองบัญชาการภูธรภาคต่างๆ ตำรวจน้ำ ตำรวจสันติบาล ตำรวจตระเวนชายแดนรวม 810 นาย เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ จ.สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง อยุธยา และปทุมธานี อีกทั้งสั่งการให้แขวงการทางสุพรรณบุรีรักษาเส้นทางสาย 340 ซึ่งเป็นเส้นทางเลี่ยงน้ำสู่ภาคเหนือให้ได้ด้วย
นอกจากนี้ยังให้เปิดอาคารคลังสินค้า 3 และ 4 ของท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นที่พักอพยพของผู้ประสบภัย ลานจอดรถ 5 ชั้นของอาคารคลังสินค้านั้น จะให้เป็นที่สถานที่จอดรถของประชาชนรองรับได้มากกว่า 450 คัน และหากผู้มีจิตศรัทธาจะบริจาคของช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถมาบริจาคได้ที่ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยใช้อาคารคลังสินค้า 1 เป็นที่เก็บและกระจายของช่วยเหลือ
สำหรับงานแรกของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้สั่งให้รีบดำเนินการเมื่อเช้านี้คือ การเร่งให้รถแบคโฮของทหารช่างจำนวน 50 คัน เข้าไปยังพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำคันกั้นน้ำแนวคันคลองชลประทาน ด้านเหนือนิคม ระยะทาง 12 กิโลเมตร ให้สูงขึ้นเป็น 7 เมตร จากเดิมที่ทำไว้ความสูงเพียง 4 เมตร เพื่อป้องกันมวลน้ำปริมาณมหาศาล ที่จะไหลลงมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยจะใช้เวลาทำ 2 วัน และหากดำเนินการแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมโรจนะได้ ส่วนแนวกั้นน้ำด้านทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตก ทางนิคมจะเป็นผู้ดำเนินการเอง และช่วงบ่ายวันนี้จะส่งตำรวจจากกองบัญชาการภูธรภาคต่างๆ ตำรวจน้ำ ตำรวจสันติบาล ตำรวจตระเวนชายแดนรวม 810 นาย เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ จ.สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง อยุธยา และปทุมธานี อีกทั้งสั่งการให้แขวงการทางสุพรรณบุรีรักษาเส้นทางสาย 340 ซึ่งเป็นเส้นทางเลี่ยงน้ำสู่ภาคเหนือให้ได้ด้วย
นอกจากนี้ยังให้เปิดอาคารคลังสินค้า 3 และ 4 ของท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นที่พักอพยพของผู้ประสบภัย ลานจอดรถ 5 ชั้นของอาคารคลังสินค้านั้น จะให้เป็นที่สถานที่จอดรถของประชาชนรองรับได้มากกว่า 450 คัน และหากผู้มีจิตศรัทธาจะบริจาคของช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถมาบริจาคได้ที่ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยใช้อาคารคลังสินค้า 1 เป็นที่เก็บและกระจายของช่วยเหลือ
