น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบในหลักการประเด็นกรอบชนิด ราคา ปริมาณ ระยะเวลา วิธีการ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. มีมติเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา โดยกำหนดชนิดและราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปี ประจำปี 2554/2555 อาทิ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 42 กรัม ตันละ 20,000 บาท ข้าวเปลือกหอมจังหวัด 40 กรัม ตันละ 18,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 16,000 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี 42 กรัม ตันละ 16,000 บาท
ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าเปิดรับจำนำข้าวเปลือกไม่จำกัดจำนวน เช่นเดียวกับจำนวนข้าวเปลือกที่เกษตรกรแต่รายจะรับจำนำ ก็ไม่จำกัดจำนวนเช่นกัน โดยจะเริ่มรับจำนำตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 ส่วนระยะเวลาไถ่ถอน จะเริ่มนับตั้งแต่เดือนที่รับจำนำเป็นเวลา 4 เดือน โดยวิธีการรับจำนำ จะให้รับจำนำข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมจังหวัด และข้าวเปลือกปทุมธานี เฉพาะชนิดที่มีใบประทวน ซึ่ง อคส. และอ.ต.ก. จะเป็นผู้รับสมัครโรงสีหรือตลาดกลาง เข้าร่วมโครงการเป็นจุดรับฝากข้าวเปลือก และจ่ายใบประทวนให้เกษตรกรที่นำข้าวเปลือกมาจำนำ เพื่อให้เกษตรกรนำใบประทวนไปจำนำกับ ธ.ก.ส. จากนั้น ธ.ก.ส.ต้องจ่ายเงินให้เกษตรกรภายใน 3 วัน โดยให้โรงสีที่รับฝากข้าวเปลือก ดำเนินการแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร พร้อมส่งมอบเข้าโกดังตามที่คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าวกำหนด
ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าเปิดรับจำนำข้าวเปลือกไม่จำกัดจำนวน เช่นเดียวกับจำนวนข้าวเปลือกที่เกษตรกรแต่รายจะรับจำนำ ก็ไม่จำกัดจำนวนเช่นกัน โดยจะเริ่มรับจำนำตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 ส่วนระยะเวลาไถ่ถอน จะเริ่มนับตั้งแต่เดือนที่รับจำนำเป็นเวลา 4 เดือน โดยวิธีการรับจำนำ จะให้รับจำนำข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมจังหวัด และข้าวเปลือกปทุมธานี เฉพาะชนิดที่มีใบประทวน ซึ่ง อคส. และอ.ต.ก. จะเป็นผู้รับสมัครโรงสีหรือตลาดกลาง เข้าร่วมโครงการเป็นจุดรับฝากข้าวเปลือก และจ่ายใบประทวนให้เกษตรกรที่นำข้าวเปลือกมาจำนำ เพื่อให้เกษตรกรนำใบประทวนไปจำนำกับ ธ.ก.ส. จากนั้น ธ.ก.ส.ต้องจ่ายเงินให้เกษตรกรภายใน 3 วัน โดยให้โรงสีที่รับฝากข้าวเปลือก ดำเนินการแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร พร้อมส่งมอบเข้าโกดังตามที่คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าวกำหนด