แนะรัฐออกมาตรการเข้มงวดสกัดทุจริตรับจำนำข้าว

นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงสีบางแห่งพยายามที่จะขอถอดรายชื่อออกจากบัญชีดำของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเข้าร่วมโครงการรับจำนำที่จะขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องเข้มงวดในการป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นอีก โดยข้าวเปลือกควรแปรสภาพไม่เกิน 10 วัน การเก็บข้าวสารเข้าโกดัง ควรให้เจ้าของโกดัง ตัวแทนองค์การคลังสินค้า และบริษัทเซอร์เวเยอร์ ใช้กุญแจที่ต้องเปิดพร้อมกัน และควรทำสัญญาฝากเก็บรักษาคุณภาพข้าว โดยให้เจ้าของโกดังต้องรับผิดชอบหากข้าวหายไป
ขณะที่นายบรรจง ตั้งจิตวัฒนกุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย ให้ข้อมูลว่า มีโรงสีที่ถูกขึ้นบัญชีดำประมาณ 45 แห่ง เป็นโรงสีในภาคอีสาน 30 แห่ง ที่ไม่แปรสภาพข้าว ทำให้ข้าวค้างอยู่ในโรงสีตั้งแต่โครงการรับจำนำ ในปี 2548-2549 ส่วนโรงสีในภาคเหนือ และภาคกลาง 15 แห่ง เกิดปัญหาข้าวหายจากโกดัง หากโรงสีที่ติดบัญชีดำต้องเข้าร่วมโครงการรับจำนำ จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับรัฐบาล และวางเงินค้าประกันเต็มจำนวน จากเดิมเพียงร้อยละ 40
ส่วนความพร้อมของโรงสีขณะนี้ มีโรงสีสนใจเข้าร่วมโครงการรับจำนำแล้ว 400 โรง จากกว่า 1,000 โรงทั่วประเทศ
นายนิพนธ์ ยังเสนอให้รัฐบาลตั้งตัวแทนจากชาวนาไปประจำโรงสี เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวนาถูกเอาเปรียบ โดยจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจวัดคุณภาพข้าว เช่น การวัดความชื้น การชั่งน้ำหนัก ขณะเดียวกัน ควรใช้ฐานข้อมูลเกษตรกรของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อป้องกันการซื้อและสวมสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการ