สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.หลายคน ยืนยันว่า โผรายชื่อคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ที่ ส.ว.จะต้องคัดเลือก จำนวน 11 คน ที่ถูกแจกจ่ายเมื่อวานนี้ เป็นโผที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งอาจเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือเป็นความต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของ ส.ว.ด้วยกัน โดย ส.ว.หลายคนยอมรับว่า คะแนนของว่าที่ กสทช.ทั้ง 44 คน จนถึงขณะนี้สูสีกัน ซึ่งแตกต่างจากครั้งคัดเลือกคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ที่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า
สำหรับขั้นตอนการคัดเลือก กสทช.จาก 44 คนให้ได้ 11 คน นายสมชาย แสวงการ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิสภา ยืนยันว่า กระบวนการจะเริ่มในเวลา 10.00 น. และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ หรือทำข่าวในช่วงเวลาที่ ส.ว.ลงคะแนนลับคัดเลือก ส่วนช่วงการนับคะแนน อาจอนุญาตให้เก็บภาพได้แค่ช่วงแรกเท่านั้น คาดว่าจะใช้เวลาตั้งแต่เปิดประชุมเพื่อคัดเลือก ไปจนถึงเสร็จสิ้นกระบวนการ คาดว่ายาวนาน 8-10 ชั่วโมง ขณะที่ขั้นตอนการนับคะแนน คาดว่าอาจจะใช้เวลา 6 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังอาจมีกรณีที่สมาชิกลุกขึ้นอภิปรายคัดค้าน หรือกรณีที่ผู้สมัครได้รับเลือกในคะแนนเท่ากันที่จะต้องเลือกใหม่
ภายหลังได้ กสทช.ทั้ง 11 คน จะต้องเดินหน้าจัดทำแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ในกิจการวิทยุ กิจการโทรทัศน์ และแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม รวมทั้งหมด 2 แผน โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์และเป็นธรรมทั้งผู้ประกอบการ และประชาชนผู้ใช้บริการ
สำหรับขั้นตอนการคัดเลือก กสทช.จาก 44 คนให้ได้ 11 คน นายสมชาย แสวงการ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิสภา ยืนยันว่า กระบวนการจะเริ่มในเวลา 10.00 น. และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ หรือทำข่าวในช่วงเวลาที่ ส.ว.ลงคะแนนลับคัดเลือก ส่วนช่วงการนับคะแนน อาจอนุญาตให้เก็บภาพได้แค่ช่วงแรกเท่านั้น คาดว่าจะใช้เวลาตั้งแต่เปิดประชุมเพื่อคัดเลือก ไปจนถึงเสร็จสิ้นกระบวนการ คาดว่ายาวนาน 8-10 ชั่วโมง ขณะที่ขั้นตอนการนับคะแนน คาดว่าอาจจะใช้เวลา 6 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังอาจมีกรณีที่สมาชิกลุกขึ้นอภิปรายคัดค้าน หรือกรณีที่ผู้สมัครได้รับเลือกในคะแนนเท่ากันที่จะต้องเลือกใหม่
ภายหลังได้ กสทช.ทั้ง 11 คน จะต้องเดินหน้าจัดทำแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ในกิจการวิทยุ กิจการโทรทัศน์ และแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม รวมทั้งหมด 2 แผน โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์และเป็นธรรมทั้งผู้ประกอบการ และประชาชนผู้ใช้บริการ