นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานหลักสูตรปริญญาเอก สาขาการพัฒนาธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เปิดเผยผลการวิจัยเรื่อง "เศรษฐกิจการพนันกับปัญหาสาธารณะ" โดยพบว่า ในกรุงเทพมหานครมีบ่อนการพนันกว่า 170 แห่ง เป็นบ่อนขนาดใหญ่ แบบถาวร 10 แห่ง บ่อนขนาดกลางและขนาดเล็ก 60 แห่ง และเป็นบ่อนวิ่งกว่า 100 แห่ง ช่วงไหนมีความเข้มงวดจะปิดไปช่วงสั้นๆ
นอกจากนี้ บ่อนในกรุงเทพฯ ยังมีเงินสะพัดปีละ 1.8 แสนล้านถึง 2 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรของเจ้ามือ 3.8 หมื่นล้านถึง 4 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้จะเป็นการจ่ายส่วยให้กับตำรวจ เพื่อแลกกับการเปิดบ่อนประมาณ 5-20% ของรายได้ หรือคิดเป็นเงิน 2 พันล้านถึง 8 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการวิจัยยังพบว่า ทั่วประเทศมีบ่อนเปิดให้บริการกว่า 7 แสนถึง 1 ล้านแห่ง โดยมีบ่อนขนาดใหญ่ 75 แห่ง บ่อนขนาดกลางและบ่อนวิ่งอีกกว่า 780 แห่ง ที่เหลือเป็นบ่อนย่อยตามงานศพ ส่งผลให้มีเงินสะพัดจากบ่อนทั่วประเทศปีละ 6.4 แสนล้านบาท ถึง 8.2 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรของเจ้ามือ 9 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ บ่อนในกรุงเทพฯ ยังมีเงินสะพัดปีละ 1.8 แสนล้านถึง 2 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรของเจ้ามือ 3.8 หมื่นล้านถึง 4 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้จะเป็นการจ่ายส่วยให้กับตำรวจ เพื่อแลกกับการเปิดบ่อนประมาณ 5-20% ของรายได้ หรือคิดเป็นเงิน 2 พันล้านถึง 8 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการวิจัยยังพบว่า ทั่วประเทศมีบ่อนเปิดให้บริการกว่า 7 แสนถึง 1 ล้านแห่ง โดยมีบ่อนขนาดใหญ่ 75 แห่ง บ่อนขนาดกลางและบ่อนวิ่งอีกกว่า 780 แห่ง ที่เหลือเป็นบ่อนย่อยตามงานศพ ส่งผลให้มีเงินสะพัดจากบ่อนทั่วประเทศปีละ 6.4 แสนล้านบาท ถึง 8.2 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรของเจ้ามือ 9 หมื่นล้านบาท