นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานว่า ในปีนี้พบการระบาดของโรคนี้เป็นกลุ่มเล็กๆ ประปราย ตั้งแต่ 1 มกราคม 2554 ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2554 พบผู้ป่วย 21,398 ราย เสียชีวิต 4 ราย น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ที่พบผู้ป่วยจำนวน 115,183 ราย เสียชีวิต 126 ราย
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันโรคและลดจำนวนผู้เสียชีวิตในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดครอบคลุมป้องกันได้ 3 สายพันธุ์ ทั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไข้หวัดใหญ่ชนิดบี และไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 ซึ่งถือว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ไว้ทั้งหมด 2.5 ล้านโดส เพื่อให้บริการกลุ่มเสี่ยง 2 กลุ่ม คือบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องให้การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย และประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุเกินกว่า 65 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคปอด โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด และโรคเบาหวาน จนถึงวันนี้ฉีดไปแล้ว 1.5 ล้านโดส คาดว่าจะฉีดให้กลุ่มเสี่ยงครบทั้งหมดภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว สามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้ที่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนทุกจังหวัด รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า ในระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 23-24 สิงหาคม 2554 ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค เตรียมวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 1,000 โดส บริการให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิก เนื่องจากการทำงานหนัก มีเวลาพักผ่อนน้อย อาจทำให้ป่วยได้ง่ายขึ้น รวมทั้งให้บริการแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐสภา ที่ประสงค์จะรับการฉีดวัคซีนด้วย
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันโรคและลดจำนวนผู้เสียชีวิตในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดครอบคลุมป้องกันได้ 3 สายพันธุ์ ทั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไข้หวัดใหญ่ชนิดบี และไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 ซึ่งถือว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ไว้ทั้งหมด 2.5 ล้านโดส เพื่อให้บริการกลุ่มเสี่ยง 2 กลุ่ม คือบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องให้การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย และประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุเกินกว่า 65 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคปอด โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด และโรคเบาหวาน จนถึงวันนี้ฉีดไปแล้ว 1.5 ล้านโดส คาดว่าจะฉีดให้กลุ่มเสี่ยงครบทั้งหมดภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว สามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้ที่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนทุกจังหวัด รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า ในระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 23-24 สิงหาคม 2554 ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค เตรียมวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 1,000 โดส บริการให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิก เนื่องจากการทำงานหนัก มีเวลาพักผ่อนน้อย อาจทำให้ป่วยได้ง่ายขึ้น รวมทั้งให้บริการแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐสภา ที่ประสงค์จะรับการฉีดวัคซีนด้วย