พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงการเตรียมจัดประชุม RBC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ ที่ จ.นครราชสีมา ว่า การประชุมดังกล่าวจะเป็นการหารือในเรื่องทั่วไประดับท้องถิ่น ส่วนจะมีการหารือเรื่องการปรับกำลังทหารแนวชายแดนหรือไม่นั้น ไม่น่าจะเกี่ยวมาก เนื่องจากคงต้องดูเรื่องแนวนโยบายของรัฐบาลไทย และท่าทีของทางกัมพูชาก่อนด้วย ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าการหารือเรื่องปรับกำลังนั้น น่าจะไปอยู่ที่การประชุม GBC มากกว่า ซึ่งในชั้นนี้คงจะเป็นการหารือเพื่อนำข้อมูลชั้นต้นเรียนผู้บังคับบัญชาก่อนเท่านั้น
ส่วนเรื่องของผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซีย ตามกระบวนการกัมพูชา ก็ดำเนินการมาตามผลจากที่ประชุม UNSC และการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นมาตามนี้นานแล้ว ยังไม่มีรายงานว่ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งข่าวที่ออกมาว่าอาจไม่จำเป็นต้องมีผู้สังเกตการณ์นั้น น่าจะเป็นความเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนบางอย่างมากกว่า
ทางด้าน พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก และว่าที่ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน กล่าวเช่นกันว่า การเอ่ยถึงเรื่องผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียนั้น เป็นการกล่าวของไทยที่พูดเปรียบเปรยถึงบรรยากาศที่ดีขึ้นระหว่างไทยและกัมพูชา ว่า หากสถานการณ์กลับดีขึ้นแล้วคงไม่จำเป็นต้องมีผู้สังเกตการณ์ แต่ในทางปฏิบัตินั้นกัมพูชายังต้องยึดหลักศาลโลกต่อไป ซึ่งถือเป็นหลักการที่ถูกต้อง และหากเราจะไม่ปฏิบัติตามก็อาจถูกมองว่าเป็นฝ่ายบิดพลิ้วก่อนได้เช่นกัน
ส่วนเรื่องของผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซีย ตามกระบวนการกัมพูชา ก็ดำเนินการมาตามผลจากที่ประชุม UNSC และการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นมาตามนี้นานแล้ว ยังไม่มีรายงานว่ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งข่าวที่ออกมาว่าอาจไม่จำเป็นต้องมีผู้สังเกตการณ์นั้น น่าจะเป็นความเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนบางอย่างมากกว่า
ทางด้าน พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก และว่าที่ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน กล่าวเช่นกันว่า การเอ่ยถึงเรื่องผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียนั้น เป็นการกล่าวของไทยที่พูดเปรียบเปรยถึงบรรยากาศที่ดีขึ้นระหว่างไทยและกัมพูชา ว่า หากสถานการณ์กลับดีขึ้นแล้วคงไม่จำเป็นต้องมีผู้สังเกตการณ์ แต่ในทางปฏิบัตินั้นกัมพูชายังต้องยึดหลักศาลโลกต่อไป ซึ่งถือเป็นหลักการที่ถูกต้อง และหากเราจะไม่ปฏิบัติตามก็อาจถูกมองว่าเป็นฝ่ายบิดพลิ้วก่อนได้เช่นกัน